ตามรอยพระบาทประพาสต้น
พระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาสต้นกำแพงเพชร วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2449


 

       ประพาสต้น หมายถึงการเสด็จโดยไม่ไม่เป็นทางการ ไม่ประสงค์ที่จะให้มีการต้อนรับ เพื่อพระองค์จะได้มีโอกาส ทอดพระเนตรสุขทุกข์ของประชาชนของพระองค์ อย่างไม่มีการ เตรียมการไว้ พระพุทธเจ้าหลวงออกจากพระราชวังสวนดุสิต ตั้งแต่วันที่ 27กรกฎาคม 2449 รอนแรมมาทางเรือ ผ่านลำน้ำเจ้าพระยา ….ถึงบ้านแดน เขตรอยต่อระหว่างกำแพงเพชรกับนครสวรรค์ ในครั้งกระนั้น เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ……
……..ทรงเข้าสู่ตัวเมืองกำแพงเพชร…..ในวันที่ 22 สิงหาคม ประทับแรมที่ พลับพลา บริเวณใกล้กับวัดชีนางเกา ปัจจุบันเป็นบ้านพัก รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งพลับพลานี้ เคยรับเสด็จ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ในรัชกาลที่ 5 เสด็จมาในปี พ.ศ . 2448 ก็มาประทับที่นี้เช่นกัน ….. ต่อมาพลับพลาแห่งนี้ ได้ใช้เป็นที่เรียนของกุลบุตรกุลธิดา ในจังหวัด เรียกกันว่าโรงเรียนพลับพลา
       เช้าวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2449 ฝนตกเวลา 3 โมงเช้า เสด็จไปทั้งฝน ผ่านวัดเล็กๆ ทำด้วยแลง ผ่านที่ว่าการเมืองที่สร้างยังไม่เสร็จ ( บริเวณสนามเด็กเล่นเทศบาลซึ่งรื้อไปแล้ว ) เสด็จเข้าทางประตูน้ำอ้อย ปัจจุบันรื้อไปแล้วเช่นกัน ได้ทอดพระเนตร สามประตู คือ ประตูน้ำอ้อย ประตูบ้านโนน ประตูดั้น เสด็จเข้าไปในวัดพระแก้ว…………….ตอนหน้าเป็นวิหารใหญ่อย่างวัด พระศรีสรรเพชญ์ กรุงศรีอยุธยา มณฑป ที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ถ้าพระแก้วมาอยู่ที่กำแพงเพชรตามตำนาน ต้องมาอยู่ที่วัดแห่งนี้แน่นอน ทรงตรัสชมว่าพระเจดีย์วัดพระแก้ว เป็นเจดีย์ลอมฟาง ทำได้งามมาก เสด็จต่อไปจนถึงวัดช้างเผือก ไปที่ศาลหลักเมือง แล้วไปที่ สระมน พระราชวังโบราณของเมืองกำแพงเพชร ราษฎรสร้างพลับพลาและปะรำในบริเวณสระมน มีราษฎรมาเข้าเฝ้าเป็นจำนวนมาก มีสำรับกับข้าว มาเลี้ยงหลายสิบสำรับ
       นายอำเภอพรานกระต่าย คือ หลวงอนุรักรัฐกิจเป็นผู้ออกแบบสร้างถวาย ได้เสวยพระกระยาหารกลางวันที่สระมน แล้วได้ถ่ายรูปคนงามเมืองกำแพงเพชร ซึ่งเขาจัดหามาให้ ความจริงราษฎรที่มานั่งอยู่ทั้งหมู่หน้าตาดีกว่าก็มี ทรงตรัสชมว่า ผู้หญิงเมืองนี้นับว่ารูปพรรณสันฐานดีกว่าเมืองอื่นในข้างเหนือ คนงาม 4 คน มี หวีด บุตรหลวงพิพิธอภัยอายุ 16 ปี คนนี้รู้จักโปสต์ถ่ายรูป จึงได้ถ่ายรูปเฉพาะคนเดียว ยังอีกสามคน ชื่อประคอง บุตรหลวงพิพิธอภัยเหมือนกัน อายุ 17 ปี ริ้ว ลูกพระพล อายุ 17 ปี
       พิง ลูกพระยารามรณรงค์ อายุ 16 ปี แล้วจึงเสด็จไปที่ศาลพระอิศวร ถ่ายรูป ซากปรักหักพังของศาลพระอิศวรตรัสถึงคนเยอรมันมาลักรูปพระอิศวรไป ปัจจุบันตามกลับมาได้แล้ว พระองค์ส่งรูปไปล้างที่บางกอก ได้หนึ่งส่วน เสียสองส่วน เสียดายมาก จึงเอาห้องอาบน้ำที่พลับพลาเป็นห้องล้างรูป สองยามเศษจึงเสร็จแล้วจึงเสด็จพักผ่อนอิริยาบถและกรณียกิจ ที่พระองค์มีต่อเมืองกำแพงเพชรนั้นมากมายเหลือคณานับ ถ้าพระองค์ไม่ถ่ายภาพเมืองกำแพงเพชรไว้ เราจะไม่หลักฐานอันใดอ้างอิงเลย….พระคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมจริงๆ….