พระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาสต้นเมืองกำแพงเพชร
ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2449
ประทับแรมเมืองกำแพงเพชร อยู่ถึง วันที่ 27 สิงหาคม รวมทั้งสิ้น 10
วัน ทรงบันทึกว่า
วันนี้ ตื่นสาย อยู่ข้างจะฟกช้ำ 4โมงเช้า จึงได้ลงเรือเหลืองข้ามฟากไปฝั่งตะวันตก
ยังไม่ขึ้นที่วัดพระธาตุเลยไปคลองสวนหมาก ต้องขึ้นไปไกลอยู่หน่อย ในคลองนี้น้ำไหลเชี่ยวแต่น้ำใส
เพราะเป็นลำห้วย มีคลองแยกข้างขวามือ แต่ต้นทางที่จะเข้าไปเรียกว่า
แม่พล้อ ถ้าไปตามลำคลอง 3 วัน จึงถึงป่าไม้แต่มีหลักตอมาก เขาเดินขึ้นไปทางวันเดียวถึง
ป่าไม้นี้พะโป้กะเหรี่ยงในบังคับอังกฤษเป็นคนทำ
เมียเป็นคนไทย ชื่อ อำแดงทองย้อย เป็นบุตรผู้ใหญ่บ้านวันและอำแดงไทย
ตั้งบ้านเรือนอยู่ติดกันในที่นั้น ไปขึ้นถ่ายรูปที่บ้านสองบ้านนี้
แล้วจึงกลับออกมาจอดเรือกินกลางวันที่หาดกลางน้ำ
คลองสวนหมากนี้ตามลัทธิเก่าถือว่าเป็นที่ร้ายนัก
จะขึ้นล่องต้องเมินหน้าไปเสียข้างฝั่งตะวันออก เพียงแต่แลดูก็จับไข้ ความจริงนั้นเป็นที่มีไข้ชุมจริง
เพราะเป็นน้ำลงมาแต่ห้วยในป่าไม้แต่เงินไม่เป็นเครื่องห้ามกันให้ผู้ใดกลัวความตายได้
แซงพอกะเหรี่ยงซึ่งเรียกว่า
พญาตะก่า
พี่พะโป้มาทำป่าไม้ราษฎรที่อยู่ฟากตะวันออกก็พลอยข้ามไปหากินมีบ้านเรือนคนมากขึ้น
ความกลัวเกรงก็เสื่อมไป...
กินข้าวแล้วล่องลงมาขึ้นที่วัดพระธาตุ ซึ่งแต่เดิมเป็นพระเจดีย์อย่างเดียวกับที่วังพระธาตุใหญ่องค์หนึ่ง
ย่อมสององค์ พญาตะก่าสร้างรวมสามองค์ เป็นองค์เดียว แปลงรูปเป็นพระเจดีย์มอญ แต่ยังไม่แล้วเสร็จพระยาตะก่าตาย
พะโป้จึงได้มาปฏิสังขรณ์ต่อ ได้ยกยอดฉัตรซึ่งมาแต่เมืองมะระแหม่งพึ่งแล้ว แต่ฐานชุกชียังถือปูนไม่รอบ
พระเจดีย์นี้ทาสีเหลือง
มีลายปูนขาว แลดูในแม่น้ำงามดี
. มีราษฎรมาหาเป็นอันมาก
ขากลับลงเรือชะล่าล่องไปขึ้นท้ายเมืองใหม่
เดินขึ้นมาจนถึงพลับพลา ที่เมืองใหม่นี้มีถนนสองสาย ยาวขึ้นมาตามลำน้ำ เคียงกันขึ้นมา
มาแต่ท้ายเมืองถึงพลับพลาประมาณ
20 เส้นวันนี้ถ่ายรูป ได้มาก แต่สนุก
..ได้ตัดผมตามพระเทพาภรณ์ขึ้นมาจากบางกอกโดยทางรถไฟลงเรือมาแต่นครสวรรค์
เพราะหาเวลาตัดผมไม่ได้
พระพุทธเจ้าหลวงทรงสำราญพระราชหฤทัยยิ่งนัก
เมื่อประทับอยู่ที่กำแพงเพชร |