กำแพงเมืองที่ถูกรื้อทำลาย

 

           กรมศิลปากร ได้ประกาศขึ้นบัญชีกำแพงเมืองกำแพงเพชรเก่า ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ไว้เป็นโบราณสถานสำหรับชาติ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2480 แต่กำแพงเมืองบางส่วน ได้หมดสภาพเป็นโบราณสถานไปแล้ว เนื่องจากถูกทำลาย โดยเจ้าหน้าที่เอง โดยความปรารถนาดี อย่างไม่เข้าใจ ในความสำคัญของกำแพงเมือง ได้ถูกรื้อไปสร้างคุกหรือทัณฑสถาน ปัจจุบันเป็นทัณฑสถานวัยหนุ่ม ทำให้ส่วนของกำแพงเมืองทางทิศตะวันตก….บริเวณหน้าศาลากลางเก่า ได้ถูกรื้อทำลายไป ยาวกว่า 300 เมตร
           .กรมศิลปากร ได้แต่เพิกถอนโบราณสถานดังกล่าว คือกำแพงเมืองบริเวณที่ถูกรื้อไป เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2501 ลงนามโดยนายธนิต อยู่โพธิ์ อธิบดีกรมศิลปากรในขณะนั้น
          พระมหาสมจิตต์ อภิจิตโต ได้บันทึกไว้เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2537 ว่า………..
          การนำเรื่องการเพิกถอนโบราณสถานสำหรับชาติ มาลงพิมพ์ในการนี้มิใช่มุ่งเพื่อให้เกิดจิตสำนึกว่าการกระทำในบางสิ่งของหน่วยงานบางหน่วย หากไม่ใคร่ครวญ ค่าความหมายของอดีต และความสำคัญในอนาคตแล้ว ความเจริญของวิทยาการใดๆ ก็ไม่สามารถชดเชยการเพิกถอนสมบัติของผืนแผ่นดินด้วยข้ออ้างเพียงว่า หมดสภาพเป็นโบราณสถานแล้ว ไว้เป็นอุทาหรณ
          ส่วนการจะเรียกร้องให้โบราณคือกำแพงเมืองที่ถูกรื้อถอนไปให้กลับคืนหรือไม่นั้น หลังจากที่รื้อสิ่งก่อสร้างบนแนวกำแพงเมืองให้หมดสิ้นไปแล้ว น่าจะทำประชาพิจารณ์ให้ประชาชนมีส่วนตัดสินใจ เพราะประชาชน เป็นเจ้าของแผ่นดินอย่างแท้จริงมิใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐเพียงฝ่ายเดียว
         อีกไม่นานเราอาจมีกำแพงเมืองใหม่ที่ฟื้นฟูหรือก่อสร้างใหม่เพื่อเพื่อทดแทนกำแพงเมืองที่ถูกรื้อไป กำแพงเพชร จะได้สมกับความเป็นเมืองกำแพงเพชรให้สมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง