แมงอีนูน

 

           เมืองกำแพงเพชร มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ สมกับเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ ของชาติไทย นอกจากอาหาร ตามธรรมชาติแล้ว กำแพงเพชร ยังมีอาหารพิเศษ ตามฤดูกาล ที่จังหวัดอื่นอาจไม่มี หรือมีไม่เหมือน อาหารพิเศษ ที่เป็นวัฒนธรรมการกินของชาวกำแพงเพชรคือ แมงอีนูน
           ฤดู เก็บแมงอีนูน มาถึงแล้ว เมื่อฝนเริ่มตกชุก ครูมาลัย ชูพินิจ ได้รจนาใน นวนิยาย เรื่องทุ่งมหาราช เพื่อสะท้อนชีวิตและภูมิปัญญาของชาวกำแพงเพชร เมื่อ 150 ปีที่แล้วไว้ว่า
           ทุกๆเย็นเกาะใหญ่กลางลำน้ำปิง ซึ่งไร่เริ่มร้าง และพงเริ่มรก เซ็งแซ่ไปด้วย ชาวปากคลองใต้และบ้านไร่ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เสียงเพลงเก่าและแอ่วลาว ล่องมาในอากาศ ท่ามกลางแมงอีนูน ที่ออกมาจากรู บินว่อนขึ้นไปแน่นฟ้า เกาะอยู่ตามกอพง ต่ำลงมา และศีรษะของผู้เก็บสำหรับจะยัดลงไปไต่ยั๊วเยี๊ย อยู่ในข้อง หรือ หม้อ ตามแต่ละคนจะหากันได้เพื่อนำมาเป็นอาหารคาวหรือหวานกันต่อไป
           แมงอีนูนเป็นแมลงพื้นบ้านเก่าแก่ของเมืองกำแพงเพชร คำว่าแมงอีนูน ไม่ปรากฏในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน เราพบการกล่าวถึงแมงอีนูนครั้งแรก จากนวนิยายเรื่องทุ่งมหาราช นวนิยายที่ฉายภาพ ชาวกำแพงเพชรที่ชัดเจนที่สุดในอดีต
           แมงอีนูน จะออกมาผสมพันธุ์กันในช่วงฤดูร้อน ต่อฤดูฝน ราวต้นเดือนพฤษภาคม ของทุกปี ในอดีตกำแพงเพชรมีแมงอีนูนมีจำนวนมากและอาศัยผสมพันธ์กันบริเวณเกาะหน้าเมืองกำแพงเพชร ปัจจุบันเป็นสวนสิริจิตอุทยาน แมงอีนูนจะออกมาจับกลุ่มผสมพันธ์กันเป็นกลุ่มใหญ่เกาะกันเป็นก้อน บางกลุ่มถึง 10 ตัว ชาวกำแพงเพชร เด็ก หนุ่มสาว ผู้ใหญ่ จะออกไปเก็บแมงอีนูนกันเกือบทุกบ้าน ถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจด้วยในตัว หลังจากเสร็จภารกิจเป็นการสนุกสนานมากกว่าจะเป็นการนำมาทำอาหาร แมงอีนูน เป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น เป็นการพบปะกันระหว่างหนุ่มสาวเสียมากกว่า แมงอีนูนจะออกมาผสมพันธุ์ ราว 1 เดือน ในเวลาพลบค่ำของทุกวัน แล้วจะฝังตัวลงในทราย ไข่ในทราย เพื่อเป็นตัวอ่อนที่จะเติบโตในปีต่อไป หลังจากเดือนพฤษภาคม แล้ว แมงอีนูนไข่ในท้องจะกลายเป็นเลือด คนไม่นิยมรับประทานกันอีกต่อไป
           วิธีนำแมงอีนูนมาทำอาหารรับประทานคือ ต้มน้ำให้เดือด ใส่เกลือลงนิดหนึ่งให้เหมาะสมกับจำนวนน้ำและแมงอีนูน เทแมงอีนูนลงไปในน้ำเดือด สัก 2 -3 นาที พอสุก ยกลง เทน้ำออก ผึ่งแมงอีนูนให้แห้ง เด็ดปีก หัว และก้นเฉพาะปลาย กินเฉพาะส่วนท้อง ถ้าตัวใดมีไข่จะอร่อยมากชาวกำแพงเพชรถือเป็นกิจกรรมสำคัญ ของชาวกำแพงเพชร ในฤดูเก็บแมงอีนูนเลยทีเดียว ถ้าเหลือจากการกินเล่น จะมาทำฉู่ฉี่ เรียกกันว่าฉู่ฉี่แมงอีนูน รสชาติแปลกออกไป ปัจจุบันแมงอีนูน หายากมากขึ้น เคยจับกันสนุกสนานกลับกลายเป็นสินค้า สนนราคาร้อยละร้อย นับว่าเป็นรายได้กับผู้จับได้เป็นอย่างดี
           การจับแมงอีนูนเคยสัมพันธ์กับความเป็นอยู่ของคนเมืองกำแพงเพชรเลยเปลี่ยนไปกิจกรรมพักผ่อนยามว่าง ภูมิปัญญาในการหาโอกาสพบกันระหว่างหนุ่มสาวริมน้ำปิงเปลี่ยนจาก จากความสนุกสนาน งานอดิเรก กลายเป็น อาชีพ จับแมงอีนูนในที่สุดเสียงหัวร่อต่อกระซิกของหนุ่มสาว แมงอีนูนเป็นสื่อสัมพันธ์ไม่มีให้เห็นอีกต่อไป