อาหารพื้นบ้านที่นับวัน
จะหารับประทาน ได้ยากขึ้นทุกวัน เพราะมีผู้ทำได้น้อยคนประกอบกับกลวิธีในการทำอาหารค่อนข้างยาก
มีเคล็ดลับมากมาย และมีอาหารประเภท ถุงพลาสติกขายเกลื่อนบ้านเมือง จึงทำให้หาคนทำอาหารและปรุงรส
ได้ยากยิ่งมากขึ้น อาหารที่กล่าวถึงและหารับประทานได้ยาก คือ แกงบอน
เราได้รับทราบจากนักเรียนที่ไปสืบค้น
เรื่องอาหารพื้นบ้านไทย ที่กำลังจะสูญหายไปจากกำแพงเพชร เธอมารายงานว่า ที่บ้านโนนม่วง
หมู่ที่ 10 ตำบลนครชุม มีชาวบ้าน ท่านหนึ่งคือ
แม่ทองย้อย โพธิวรรณ อายุ 60 ปี มีอาชีพ ทำอาหารขาย และอาหารที่ แม่ทองย้อย ทำจำหน่าย
คือแกงบอน มีรสชาติที่อร่อยมาก แม่ทองย้อย ไปขายที่ตลาดต้นโพ หลังธนาคารกรุงไทย
ในตอนเช้า ถ้าวันไหนจำหน่ายไม่หมด แม่ทองย้อย จะขี่จักรยานคู่ชีพไปจำหน่าย ตามบ้านเรือน
ที่อยู่ใกล้เคียงนับว่า เป็นอาชีพ ที่น่าสนใจ และกำลังจะสาปสูญ ไปจากบ้านเมืองของเรา
บอน เป็นพืชที่มีพิษ
ใครถูกเข้าจะคัน ถ้าแพ้จะมีอาการ ปวดแสบปวดร้อนมาก แต่ด้วย
ภูมิปัญญาไทย ได้นำมารับประทานได้ อย่างน่าพิศวง และเป็นอาหาร จานโปรดของ คนไทยเกือบทุกภาค
.คณะทำงานโทรทัศน์วัฒนธรรม นัดกันไปถ่ายทำรายการ โทรทัศน์การแกงบอน ที่บ้านแม่ทองย้อย
ตั้งแต่เช้า ของวันที่ 17 ธันวาคม 2547 ซึ่งได้รับการต้อนรับขับสู้จาก แม่ทองย้อย
ด้วยไมตรี อันดียิ่ง ตามวิสัย คนไทยในชนบทโดยทั่วไป
แกงบอน
อาหารที่แปลกและแสนอร่อย ประกอบด้วย พริกแห้งเม็ดใหญ่ หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ใบมะกรูด
เกลือป่น กะปิ มะพร้าวขูด น้ำตาลปีบ มะขามเปียก ปลาย่าง น้ำปลา บางแห่งใส่ปลาร้าด้วย
และที่สำคัญคือต้นบอน ที่ปอกแล้ว ไม่ล้างน้ำ
วิธีทำ ทำน้ำพริกแกง
โดยเอาพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ เกลือป่นลงโขลกในครกให้ละเอียดและแกะปลาย่างโขลกลงไปด้วย
ปอกก้านบอน และหั่นแบบเฉียงเป็นท่อนๆ
คั้นกะทิ นำหัวกะทิลงเคี่ยว จากนั้นนำน้ำพริกแกงลงมาผัด นำบอนไปต้ม ให้หมดพิษ หรือใส่บอนลงไปในน้ำแกงเลย
ก็ได้ แล้วเติมน้ำกะทิที่เหลือตามลงไป นำน้ำแกงเดือดแล้ว ปรุงรสด้วย น้ำมะขามเปียก
น้ำตาลปีบ น้ำปลาให้ออกรส เปรี้ยวหวาน นำจึงจะอร่อย เมื่อบอนสุกดีแล้ว ให้ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไป
ยกหม้อแกงลง และตักรับประทานได้
การที่เราได้บันทึก
การแกงบอน ไว้ เพื่อให้คนรุ่นหลังที่มิเคยรับประทาน หรือมิเคยแกงบอน ด้วยตนเองได้สัมผัสด้วยสายตา
อาหารพื้นบ้านไทย ที่นำภูมิปัญญาไทย และสมุนไพรไทย มาเป็นเครื่องปรุง มาประกอบเป็นอาหารแสนอร่อย
คู่กับคนไทยไปตลอดกาล
. |
|