ขนมไทยที่กำแพงเพชร
เหลืออยู่ไม่กี่เจ้า
เหตุผลเพราะความประณีตของวิธีการทำ และการนำวัสดุและอาหารพื้นบ้าน ที่อยู่รอบตัวมาประกอบเป็นขนม
เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ขนมแตง ขนมกล้วย ขนมใส่ไส้
ขนมขี้หนู ขนมตาล ขนมฝักทอง
ขนมดอกดิน หารับประทานยากขึ้นเรื่อย เสียงร้องขาย การหาบขาย หายไปจากสังคมไทย
ที่ชุมชนบ้านหัวยาง
ริมน้ำปิง บ้านเลขที่ 087 หมู่ 2 ตำบลนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร นางวันเพ็ญ
กิติแก้ว หรือป้าดำ อายุ 65 ปี อยู่บ้านหัวยางมาตั้งแต่เกิด สืบทอดวิธีการทำ ขนมไทยๆ
จาก แม่เล็ก อ่วมสถิตย์ มารดา และแม่เล็ก อ่วมสถิตย์ สืบทอดมาจาก
แม่ไข่ อ่วมสถิตย์ ผู้เป็นมารดา อีกต่อหนึ่ง นับว่าเป็นขนมไทยที่สืบต่อกันมา 3 ชั่วอายุคน
.
ป้าดำผู้สืบสานตำนานขนมไทย
โชคดีเหลือเกิน ที่ลูกสาว สองคน ของป้าดำ เข้าใจในภูมิปัญญาของการทำขนมไทย ชื่นชมและอยากสืบทอด
ต่อจากแม่ ให้เป็นอาชีพได้ ทั้งสองสาวพี่น้องเริ่มฝึกฝน และทำได้มีฝีมือใกล้เคียงกับมารดา
วันนี้ ป้าดำ สาธิตการทำขนมใส่ไส้
โดยคั้นกะทิ ที่ใส่น้ำพอประมาณ เพื่อเป็นหัวกะทินำแป้งข้าวเจ้า เกลือ น้ำตาล ผสมรวมกัน
คนให้ละลาย ใส่น้ำเปล่าอีกครั้ง นำไปตั้งไฟกวนให้สุกจนกระทั่งเป็นตัว ส่วนไส้นั้น
ใช้มะพร้าวขูด น้ำตาลปีบ แบะแซ นำส่วนผสมใส่กระทะกวนให้เข้ากันจนสุก วิธี ห่อ ปั้นไส้ขนมโดยนำแป้งข้าวเหนียวห่อไส้ขนม
มาห่อใส่หน้า นึ่งไฟพอประมาณ 20 นาที นำออกจำหน่าย ห่อละ 2 บาทขนมไทย อันมี ขนมแตง
ขนมกล้วย ขนมใส่ไส้ ขนมขี้หนู ขนมตาล ขนมฝักทอง ขนมดอกดิน ยังฝังแน่นในความทรงจำของเด็กไทย
ก่อนที่อาหารจาก
วัฒนธรรมตะวันตกเข้าครอบงำสังคมไทยเสียสิ้น ไม่เหลือที่ไว้ ให้ขนมไทย ได้วางขายอีกเลย
้ ขอบคุณ ป้าดำ
ขนมไทย ที่สืบสายใยการทำขนมไทย
.ไว้ให้ลูกหลานต่อๆไป ขอให้ขนมไทยอยู่คู่สังคมไทยไปให้นานแสนนาน
|
|