บ้านร้านดอกไม้ ในอดีต กลายมาเป็น บ้านลานดอกไม้ ในปัจจุบัน ริมฝั่งน้ำปิง เหนือเมืองกำแพงเพชร ไปเล็กน้อย มีชุมชนโบราณที่สำคัญแห่งหนึ่งคือ ชุมชนโบราณบ้านลานดอกไม้ ในชุมชนแห่งนี้ เป็นชุมชนดั้งเดิม ประชาชนอาศัยอยู่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน ดังนั้นศิลปวัฒนธรรมจึงฝังรากลึก ในบ้านลานดอกไม้ เพลงพื้นบ้านที่เล่นกันมากว่าร้อยปี จึงอยู่ในสายเลือดของชาวบ้าน การตามหาเพลงพื้นบ้าน โดยการไปพบแม่เปรื่อง ผิวพรรณ วัย70ปี ลูกศิษย์เอกของแม่ต่อ นุ่มน่วม แม่เพลงในอดีต ที่เสียชีวิตไปแล้ว เมื่อเล่าให้ฟังถึงความต้องการฟื้นฟู เพลงพื้นบ้านลานดอกไม้ จึงได้รับความร่วมมือ จากแม่เปรื่อง ผิวพรรณ ที่รวบรวม พ่อเพลงแม่เพลง ที่เคยเล่นด้วยกันเมื่อกว่า50ปี ที่ผ่านมา มาซ้อมร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง เพลงที่ศิลปินพื้นบ้านลานดอกไม้ นำเสนอคือ เพลงฉ่อย หรือเพลงฉ่า อันเป็นเพลงปฏิพากย์ คือกลอนที่ใช้แก้กัน โต้คารมกัน เกี้ยวพาราสีกัน
เพลงฉ่อย มีลักษณะกลอนบังคับ วรรคละ 6-9 คำ การโต้ตอบใช้ปฏิภาณไหวพริบเป็นสำคัญ บทหนึ่งจะยาวเท่าใดก็ได้ เมื่อจบลูกคู่จะร้องรับพร้อมกันว่า ชาชัดชา ฉาดชา หน่อยแม่
เพลงฉ่อยบางทีเรียกกันว่า เพลงวง เพราะเวลาเล่นต้องยืนล้อมวงเล่น พ่อเพลงที่ยืนถัดมาเรียก คอสอง คอสาม ตามลำดับ เวลาเล่นขยับเท้าเดินช้าๆ หมุนไปรอบๆ และเมื่อเวลาเริ่มต้นใหม่
ก็จะมีการขึ้นต้น โองโรงไง ละโอ๋ โง๋งโง๋ย และลูกคู่จะปรบมือ ให้จังหวะ
การแสดงเพลงฉ่อยที่บ้านลานดอกไม้ เริ่มต้นด้วยบทไหว้ครู มีพิณพาทย์ และกลองรับและส่งจังหวะ เป็นแบบฉบับของการเล่นเพลงฉ่อย จากบทไหว้ครูที่ ว่า
สิบนิ้วประนม ขึ้นเหนือเศียร ทั้งดอกไม้ธูปเทียนบูชาครูเอย ประนมเนียนยกหัตถ์นมัสการ สิบนิ้วประนม ขึ้นเกษา ฉันจะไหว้ครู เพชร ฉลูกัน ทั้งครูบรรยาย เชิญแม่พิม แม่คนรู้ ให้มานั่งเป็นครูลูกไว้ เชิญแม่พิมมาขี่คอ ต่อปัญญาแล้วลูกจะว่าเพลงไป ขอให้จับมือว่า จับบ่าสอน ขอให้แนะนำเป็นกลอนเพลงไป ลูกจะว่าอะไร ขออย่าให้ติด ขอให้ลูกว่าเหมือนกับตาไม้
(เพลงส่งหน้าพาทย์
..)
เมื่อตะละเมื่อคืนนี้ เอย ชะเอ่อเช่อเอย ฝันว่าไปชมสวน เก็บดอกลำดวน นางแย้ม
ชะเอ่อเช่อเอย แซมสะไว้ เออเอ่อเห่อเอิงเอย นางโน้มกิ่งชิงกัน เก็บกำเริบใจ พบงูใหญ่ไล่กระหวัด รัดข้อมือ นางร้องกรีดสิ้นเสียง จนรู้สึก โปรดช่วยนึกทำนาย จะร้ายหรือไม่ร้าย ดอก พี่จะบอกแม่บุญลือ ฝันนี่หรือ จะได้คู่มาชูชม รักเขาไม่รัก รักเขาข้างเดียว เขาไม่รักเราแล้ว ไปงอนง้อขอเขามาจักวา มาเถอะมาน้องมา ปลอบปลุกลุกขึ้น แม่สาวน้อย ปลอบปลุกลุกขึ้นเถิดแม่แก้วตา..
เมื่อนั่งล้อมวง แล้วก็ลุกขึ้นร้องรำเกี้ยวพาราสีกัน ดังตัวอย่างเช่น
หญิง
ฉันเป็นสาวน้อยรูปหล่อ ดูเจ้าช่างสวยพอโสภา แต่ในแถวย่านบ้านข้า ไม่มีใครมาเปรียบเทียบสอง ถ้าพี่อยากได้ ได้น้องเอาไปเคียงกาย ขอให้พี่มานั่งไหว้ กระดอง
ชาย..ฉันจะขอตอบแม่เนื้ออ่อน เมื่อวานข้าไปนอนบ้านพ่อตา
.
หญิง
ฉันขอถาม พี่ชาย ว่าบ้านช่อง อยู่ไหนกันเล่าหนา
..
ชาย
พี่จะบอกเสียให้เสร็จ บ้านพี่อยู่วัดเสด็จ โน่นนา
หญิง
อยู่วัดเสด็จ โน่นเหนอ แกเป็นลูกสัปเหร่อหรือไอ้บ้า
ชาย
ฉันไม่ใช่ลูกสัปเหร่อ พี่ลูกนายอำเภอ ซ้ายขวา
ชายหญิงจะโต้ตอบกันไป
.อย่างสนุกสนาน ว่ากันแรงๆ แต่ไม่โกรธกัน
. เป็นแนวทางของเพลงพื้นบ้านที่เรียกกันว่าเพลงฉ่อย
.เมื่อศึกษา เพลงฉ่อยลานดอกไม้แล้ว
.รู้สึกภูมิใจ ที่ชาวลานดอกไม้รักษาแบบฉบับของเพลงพื้นบ้านไว้อย่างสมบูรณ์แบบ
..ขอบคุณแม่เปรื่อง ผิวพรรณ ที่รักษาวัฒนธรรมพื้นบ้านไว้อย่างวิเศษสุด
..น่าเสียดายที่บ้านลานดอกไม้ ยังไม่มีสถาบันการศึกษาใดรักษาไว้ได้
คงสาบสูญไป เหมือนภูมิปัญญาไทยดีๆที่ไม่มีใครดูแล
อีกไม่นาน..ลูกหลานของเราคงไม่ทราบว่า วัฒนธรรมแท้ๆของเราคือสิ่งใด
.. มีแต่ทาสวัฒนธรรมตะวันตกไปทุกหัวระแหง แห่งประเทศไทย
.. ช่วยวัฒนธรรมพื้นบ้านของเราด้วย
..
|
|