รำโทน เป็นแสดงความรักและความสามัคคีของคนในชุมชน ในช่วงสมัย
จอมพล ป. พิบูลสงคราม มีจุดมุ่งหมายให้คนไทยรักชาติ รักความเป็นไทย มีสำนึกรักบ้านเกิด ดังนั้นในแต่ละชุมชนได้คิดเพลงรำโทนขึ้นประจำบ้านของตนเอง ที่ชุมชนเขาทองเช่นกัน ชาวบ้านได้อพยพมาจาก ตำบลเขาทอง อำเภอพยุหคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ประมาณ 30-40 ปีมาแล้วหรือราวพุทธศักราช
2510 ได้ย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่ตำบลไตรตรึงษ์ อำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร หลังวัดไตรตรึงษารามประมาณ 20 ครอบครัว ล้วนเป็นญาติมิตรกันทั้งสิ้น
เพลงที่ร้องกันส่วนใหญ่ เป็นเพลงสั้นๆมีเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมชาติ การเกี้ยวพาราสี ที่แฝงไว้ด้วยภูมิปัญญาไทย แต่มีท่ารำที่โดดเด่นแตกต่างจากที่อื่น คือมีการชี้บทรำมีท่าทางประกอบบทเพลง
นางนาม เผือกคล้าย และนายชด เผือกคล้าย สองสามีภรรยา ได้สืบทอดและรวบรวมผู้คนตั้งคณะเพลงพื้นบ้านชุมชนเขาทองขึ้นเกือบ 30 ชีวิต เป็นชุมชนที่เข้มแข็ง ประกอบอาชีพทำไร่ทำนา เมื่อว่างจากไร่นา ก็มาร้องเล่นกัน
สภาวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมกับศูนย์พัฒนาการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยจังหวัดกำแพงเพชรได้รับงบประมาณจากสำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้เชิญเยาวชนและครอบครัวจาก 9 โรงเรียนบริเวณใกล้เคียงกับบ้านเขาทองจำนวนเกือบ 200 คน มาร่วมสืบทอดการแสดงพื้นบ้านโดยหวังว่า จะสืบต่อความเป็นไทยไว้ให้ลูกหลาน ก่อนที่ความเป็นไทยจะไม่มีเหลืออยู่ในสายเลือดของลูกหลานไทยอีกต่อไป
เนื้อเพลงแตกต่างกันไปตามอารมณ์และความรู้สึกของช่วงเวลาที่ชาวบ้านได้กระทบ บริสุทธิ์สะอาด และมีกลิ่นอายความเป็นไทยที่ชัดเจน ดังตัวอย่าง เพลงชักชวนสาวงาม
ชักชวนสาวงาม มาเล่นฟ้อนรำถวายเจ้าพ่อ อนิจจารูปหล่อ รูปหล่อยักคิ้วข้างเดียว พายเรือเข้าไปรับ ขากลับกระไรน้ำเชี่ยว รักเธอคนเดียว น้ำเชี่ยวก็ต้องพาไป
เพลง ยามเย็นเดินเล่นชายเขา ยามเย็นเดินเล่นชายเขา สองคนเราชมเขาพรรณนา โน่นแน่ะนกสาริกา ๆ ส่งเสียงมาเจรจาน่าดู ไก่ฟ้าบินมาเป็นคู่ เอาละว้า ไก่ฟ้าบินมาเป็นคู่ น่ารักน่าดูล่ะเดินคู่เคียงกัน
เพลง เพลงอยู่ในดง อยู่ในดงหลงชมแต่ดอกไม้ ๆ สัญญาไว้ว่าจะไม่ลืมกัน พบรักคนใหม่ละชื่นใจก็ไหมเล่าๆ มาลืมรักเก่าละเสียเมื่อดาวเคียงเดือน เอ๋ยดาวเคียงเดือน เตือนละหัวใจหม่นหมอง เจ็บใจยิ่งนักเมื่อคู่รักใจสองๆ เฝ้าแต่แลมองไม่รู้ว่าใคร
เพลงสาวน้อยเอวกลม อสาวน้อยเอวกลม ไว้ผมดัดลอนดัดคลื่น ใส่น้ำมันหอมรื่น สวมแต่หมวกใบลาน แต่งตัวทันสมัย สาวไทยแบบหลวงพิบูล หิ้วกระเป๋าจันทบูร แม่คุณจะไปไหนกัน
ช. ล่ะฉันจะไปดูโขน ญ. ล่ะฉันจะไปดูหนัง มะขึ้นรถรางไปด้วยกัน
เพลงไทรย้อย
ไทรย้อยห้อยระย้า ลมพัดมาถลาลอยลิ่ว
ช. โน่นแน่ะต้นพยุง เอ๊อเอย สูงลิ่วๆ เอ่อเอ้อเอ๊ย เป็นทิวมา สองคนเดินเล่นชมสวน เด็ดดอกลำดวนและกระดังงา
ญ. โน่นแนะดอกอะไร เอ๊อเอย เธอจ๋า ๆ
ช. กระดังงามาร้อยพวงมาลัย
ญ. ต๊กกะใจเสือใหญ่เดินมา
ช. ไหน ไหน ไหน ไหน
ญ. โน่นไงละเธอจ๋า
ช. หนูจะหนีไปไหน
ญ. หนูจะไปกับพี่
ช.เร็วเร็วเข้าซี ลงน้ำหลบภัย
ญ ต๊กกะใจอะไรว่ายทู่
ช.ตะเข้ซิหนูตัวมันล่ะใหญ่จัง
หนีเสือพบจระเข้ เอาละว่า หนีเสือพบจระเข้ หัวใจร่อนเร่ อยู่ในวงฟ้อนรำ
เพลงพื้นบ้านรำโทนชุมชนเขาทอง มีเกือบร้อยเพลง แต่ละเพลงน่าสนใจทั้งสิ้น สมควรที่จะได้รับการสืบทอดสู่เยาวชนรุ่นหลังสืบไป เพื่อไม่ให้สูญหายไปจากแผ่นดินของเรา
|