|
|
จรัสรุ่งจรุงโรจน์งามโชติช่วง
|
นครหลวงชากังราวพราวสมัย |
บัดนี้คือกำแพงเพชรเด่นวิไล |
ธำรงไว้ได้แลเห็นเป็นเมืองงาม |
เรืองระยิบทิพย์วิมานอันบรรเจิด |
แสนประเสริฐทั่วแคว้นแดนสยาม |
มรดกโลกยกย่องก้องเขตคาม |
ระบือนามทั่วฟ้าหล้าแดนดิน |
กำแพงเมืองป้อมประตูคูคันน้ำ |
สร้างคูนค้ำศิลาแลงแข็งดั่งหิน |
มีเชิงเทินใบเสมาน่ายลยิน |
แทรกงานศิลป์พร้อมป้องกันอันไพรี |
วัดพระแก้วแพรวพิศวิจิตรร่าง |
ดังเทพสร้างเสกสรรด้วยศิลป์ศรี |
ประดิษฐ์พระปฏิมาเหนือไพที |
บนบุษบกรัตน์รุจีบัลลังก์ทอง |
วัดพระธาตุเจดีย์ระฆังคว่ำ |
ได้ย่างย่ำเข้ามาพาสนอง |
มีมาลัยลูกแก้วมาร้อยกรอง |
พิศเพ่งมองกลีบบัวหงายรายรอบไป |
องค์บัลลังก์ต่อชั้นด้วยก้านฉัตร |
งามประภัสร์เรืองรองปล้องไฉน |
ส่วนปลียอดพิรอดรัตน์จรัสไกล |
ดูวิไลงามเด่นเห็นแก่ตา |
อรัญญิกสง่างามอารามสงฆ์ |
ส่วนบรรจงวัดพระนอนบวรค่า |
เสาเก่าแก่ยิ่งใหญ่ในศิลา |
สุขได้มาพาได้รู้อยู่คู่ควร |
วัดพระสี่อิริยาบถปรากฏแจ้ง |
กระจ่างแสงเลอค่าน่าสงวน |
จัตุรมุขลีลาพาเชยชวน |
ทั้งสี่ล้วนพุทธองค์คงความจริง |
วัดช้างรอบขอบขัณฑ์อันคชสาร |
แลวิหารควรค่า ณ วัดสิงห์ |
อาวาสใหญ่ยังดำรงสงฆ์พักพิง |
เป็นมิตรมิ่งแก่เมืองเฟื่องธานี |
ให้ช่วยกันอนุรักษ์โบราณสถาน |
ให้ชั่วกาลตระหนักเป็นศักดิ์ศรี |
ให้โลกรู้ว่าเมืองไทยนั้นมีดี |
ให้ปฐพีแซ่ซ้องก้องนิรันดร์. |
|
|
เห็นลมเรื่อยเฉื่อยฉิวต้องผิวน้ำ |
ลมเย็นย้ำยามเย็นเป็นไฉน |
สุขภาพยามเย็นเป็นเช่นไร |
เด็กผู้ใหญ่ออกกำลังริมวารี |
บางคนที่เรี่ยวแรงยังแข็งขัน |
วิ่งเล่นกันไล่กันบ้างวิ่งหนี |
จักรยานเต้นรำก็พอมี |
คือสิ่งที่ดีงามตามทางชล |
บางคนใช้วารีทางที่ผิด |
ใคร่ครวญคิดแล้วว่าพาขัดสน |
พฤติกรรมไม่ดีไม่น่ายล |
มีบางคนทิ้งขยะเกะกะตา |
บางคนนั่งเป็นคู่ดูจู๋จี๋ |
บางที่มีโจรกรรมระยำบ้า |
ตรงนี้หายแปดคันเคยมีมา |
ป้ายเขียนว่าเฝ้าระวัง มอเตอร์ไซค์ |
เด็กวัยรุ่นจับกลุ่มบีบอยแดนซ์
|
บ้างยกแขนยกขาทำไปได้ |
ยิ่งเต้นยิ่งดูยิ่งเจ็บใจ |
เต้นอยู่ในลานอนุรักษ์วัฒนธรรม |
ฝากถึงเหล่าเยาวชนให้ครุ่นคิด |
ว่าชีวิตเปลี่ยนไปใครเล่าช้ำ |
คงหายไปตามกาลแล้ววัฒนธรรม |
ดั่งลำนำน้ำปิงไม่หวนคืน. |
เหม่อมองท้องนภาสง่าสวย |
ประดับด้วยแสงทองส่องบุหงา |
สายวารีแพรวระยับงามจับตา |
หมู่มัจฉาแหวกว่ายในสายชล |
ทินกรล่องลับสดับจิต |
คะนึงนิจคิดไปใจสับสน |
เพลานี้มิวายใจกังวล |
จึงหมองหม่นชอกช้ำจำจันทรา |
ครุ่นคิดไปอยากกลายเป็นวิหค |
ที่โผนผกเหินไปในเวหา |
อยากจะโผบินท่องท้องนภา |
เพื่อตามหาความฝันอันยาวไกล |
ณ
สิริจิตอุทยานมาพานพบ |
ได้ประสบสิ่งดีที่สดใส |
ดั่งธาราใหญ่กว้างล่องไหลไป |
แสนชื่นใจกับสายลมสมฤดี |
คลื่นลมโชยโปรยระรินกลิ่นหอมหวาน |
สุดซาบซ่านชีวาพาสุขศรี |
ทั้งสายธารฝูงชนต่างเปรมปรีดิ์ |
ด้วยวารีไหลเย็นเห็นผืนทราย |
วันเวลาก็เป็นเช่นสายน้ำ
|
คงความงามเรื่อยไปไร้จุดหมาย |
แต่ตัวเราจงอย่านิ่งดูดาย |
อย่าปล่อยกายดั่งสายน้ำตามอารมณ์. |
อุทยานกำแพงเพชรเมืองแห่งศาสตร์ |
สมบัติชาติขึ้นชื่อเรื่องลือค่า |
ธรรมชาติล้วนสัมผัสทัศนา |
เมืองศิลาแลงใหญ่ในเขตคาม |
คันคูเมืองล้อมรอบเป็นขอบขัณฑ์ |
ล้วนไม้พรรณเขียวขจีแห่งสยาม |
ศิลปะเฟื่องฟูคู่อาราม |
ล้วนงดงามทรงคุณค่ามาช้านาน |
วัดพระแก้ววัดพระนอนวัดพระธาตุ |
ประวัติศาสตร์เชิดชูชนเล่าขาน |
เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์มีตำนาน |
เด่นตระการสถาปัตยสมบัติไทย |
เขตอรัญวาสีธานีก้อง |
แผ่นดินทองผองชนล้นสมัย |
เกียรติประวัติเรื่องลือระบือไกล |
มรดกโลกเมืองวิไล ตลอดกาล. |
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร |
สมดั่งเม็ดรัตน์มณีที่มีค่า |
ได้มาพบได้มาเห็นเป็นบุญตา |
ได้รู้ว่าเมืองนี้มีความงาม |
หลักฐานเด่นเห็นชัดวัดพระธาตุ |
สมบัติชาติขึ้นชื่อทั่วสยาม |
เจดีย์ทรงระฆังช่างงดงาม |
ระบือนามเสริมศรัทธาสาธุชน |
สร้างด้วยศิลาแลงแกร่งประหลาด |
ช่างสามารถก่อหินสร้างอย่างฉงน |
คือศิลปะสร้างสรรค์ของบรรพชน |
ไว้ให้คนศึกษาค่าของงาน |
วัดพระแก้วพริศแพร้วแพรวพิสัย |
ดูวิไลงามเด่นเป็นแก่นสาร |
คชสารล้อมรอบองค์ประธาน |
งานสถานสถาปัตย์สมบัติไทย |
มีสระแก้วขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ |
ใช้กอปรกิจกรรมพิธีที่ยิ่งใหญ่ |
อารายธรรมประวัติศาสตร์ศรีวิไล |
ทั่วแดนไตรยามเยี่ยมเยือนยินยล |
จงอนุรักษ์มรดกที่ควรค่า |
จงรักษากันเถิดจักเกิดผล |
เพื่อลูกหลานไทยสยามชน |
ทั่วธราดลประจักษ์อยู่คู่แผ่นดิน. |