กาพย์ยานี ๑๑
   
          จรัสรุ่งจรุงศรี นามานีศรีสมัย
ชากังราวพราววิไล ธำรงไว้ในความงาม
โบราณสถานล้วน ต่างคู่ควรแห่งสยาม
มรดกโลกยกย่องนาม ทั่วเขตคามพาชื่นชม
กำแพงป้อมประตุ ยังคันคูดูเหมาะสม
เชิงเทินเพลินอารมณ์ ช่างกลืนกลมคู่เสมา
พระแก้วแพรวเพริศพิศ เทพนิมิตสร้างรักษา
ประดิษฐ์องค์ปฏิมา เหนือไพทีบุษบกทอง
วัดพระธาตุเจดีย์หลวง แสนชื่นทรวงพาสนอง
มาลัยลุกแก้วกรอง เพ่งพิศมองกลีบบัวราย
บัลลังก์ฐานก้านฉัตร งามประภัสร์ดูเฉิดฉาย
ปล้องไฉนล้วนลวดลาย ปลียอดปลายดาษตา
อรัญญิกอารามสงฆ์ พระบรรจงบวรค่า
เสาใหญ่ในศิลา ชื่นใจมาพาคู่ควร
พระสี่อิริยาบถ งามใสสดน่าสงวน
จัตุรมุขสุขเชยชวน พุทธล้วนคงความจริง
ช้างรอบขอบคชสาร งามวิหาร ณ วัดสิงห์
อาวาสสงฆ์พักพิง มงคลมิ่งเฟื่องธานี
จงรักษ์โบราณสถาน ให้ชั่วกาลเป็นเกียรติศรี
โลกรู้ไทยมีดี ทั่วปฐพีก้องเกียงไกร.
   


          พิศฟ้านภากว้าง ตะวันร้างกระจ่างศรี
ชื่นชมสมฤดี จะหาที่ใดเปรียบปราน
แสงทองเรืองรองเลิศ ชื่นชมเชิดสุขพิศาล
มัจฉาแหวกท้องธาร เวียนวนว่ายใจอาทร
ลมพลิ้วพริ้งพราวเพริศ ฤดีเลิศสโมสร
ลืมทุกข์อาลัยวร เย็นชื่นฉ่ำล้ำสมจินต์
ยุวกวีแก้ว บรรเจิดแพร้วอักษรศิลป์
กรองแก้วศิลปิน เรียงร้อยถ้อยสุวาจา
ตัวฉันนั้นยังเด็ก ตัวเล็กๆอ่อนพรรษา
ไม่เจนจำนรรจา เสนาะเพราะพูดพาที
พากเพียรเรียนอักษร ปัญญาอ่อนเชือนวิถี
ร้องรับขับดนตรี ที่เพราะยากลำบากใจ
ขอรบกวนครูด้วย เอ็นดูช่วยปรับแก้ไข
อย่าเพิ่งถอดถอนใจ ในตัวศิษย์ระอิดระอา
ดาราพริ้งพราวเพริศ วิจิตรเลิศทั่วทิศา
จำจรจำจากลา กุศลพาสุขสวัสดี.


          ประวัติเมืองกำแพง ชื่อแข็งแกร่งดั่งหินผา
มรดกล้ำค่า เมืองโบราณเจ็ดร้อยปี
สตรีนั้นแสนสวย รสชาติกล้วยไข่ก็ดี
ขึ้นชื่อของที่นี่ และยังมีพระซุ้มกอ
อีกทั้งแหล่งน้ำมัน โบราณนั้นงามมากหนอ
ได้ยินคำเยินยอ กล่าวขานเรื่องเมืองกำแพง
ข้างสายน้ำยามเย็น กล่าวขานเรื่องเมืองกำแพง
สะท้อนส่องธารา ท้องนภาดับอับแสง
วิหคบินกลับรัง ในเมื่อครั้งสายันต์แดง
จากเคยจรัสแจ้ง เริ่มดับคล้อยราตรีเยือน
ราตรีที่มืดมน ทุกแห่งหนจันทราเคลื่อน
ประดับแสงดาวเดือน ทั่วกลาดเกลื่อนท้องนภา
ค่ำคืนที่มืดมิด เหมือนชีวิตผ่านพ้นมา
แรงกายที่เหนื่อยล้า เมื่อถึงคราวเพลาเย็น
ดวงเดือนเตือนราตรี หมู่ดาวนี้มีให้เห็น
แสงจันทร์ส่องวันเพ็ญ สวยงามเด่นทิวากาล
สุริยันพ้นฟ้า เหมือนกับว่าเมื่อวันวาน
ชีวิตได้พ้นผ่าน ดั่งราวปานเสี้ยวนาที
ยามเย็นอาทิตย์ตก มวลหมู่นกเหินกลับรัง
นั่งมองเพียงลำพัง ที่ริมฝั่งแม่น้ำปิง
อาทิตย์เริ่มหลับใหล เหมือนว่าใกล้จะโดนทิ้ง
เหลือแต่เดือนกับดิน สุดถวิลยามราตรี
ดวงเดือนเริ่มทอแสง ดวงดาวแรงแสงริบหรี่
มืดมนลงทุกที นภานี้เปลี่ยนสีไป
น้ำปิงเริ่มไหลลับ บินหวนกลับเหมือนวันใหม่
เศร้าสดสลดใจ กลัวมิได้กลับมาเยือน.

          สายน้ำที่ไหลเย็น สาดกระเซ็นเห็นมัจฉา
น้ำใสเห็นตัวปลา ว่ายไปมาในสาคร
สายลมที่พัดผ่าน คิดถึงบ้านดวงสมร
ใบไม้ที่ปลิวว่อน แลดูงามอร่ามตา
สายใจมิวายคิด โอ้แม่จิตนารีข้า
ตัวพี่รอนรานมา หาความรู้คู่กวี
สายแสงสุริยา สาดส่องมาแสนเรืองศรี
ยิบยับจับฤดี ส่องสาดขึ้นในโลกา
สายรุ้งอันสวยงาม ดูอร่ามแสนสง่า
สายน้ำอันล้ำค่า คือสายชลเลี้ยงชีวัน
สายเส้นลงอักษร ใส่คำกลอนให้เสกสรร
สายเดือนสายตะวัน ช่วยบรรจงลงกวี.
   
          ชื่อเมืองกำแพงเพชร งามก่องเก็จเลื่องลือค่า
ประวัติโบราณมา ทั่วอาณาเขตนิคม
เมืองแห่งศิลาใหญ่ คงเหลือไว้ให้โลกชม
โครงสร้างอย่างเหมาะสม รื่นอารมณ์ไม้พรรณงาม
วัดพระอารามใหญ่ งามวิไลศรีสยาม
โลการะบือนาม ทุกเขตคามคู่แผ่นดิน
ศิลปะแต่โบราณ ร่วมสืบสานวรรณศิลป์
รุ่งเรืองเฟื่องประทิน ล้วนทั้งสิ้นถิ่นแหลมทอง.