ศรัทธาแรงใจเยาวชนไทยใจอย่าท้อ
         ท้องฟ้าขาวมน เมฆหมอกล่องลอยไปตามสายลมอยู่บนท้องฟ้า วันนี้ไม่สดใสเหมือนวันก่อนๆมา เป็นเพราะรู้สึกว่าไม่สบายใจหรือเป็นเพราะอะไรให้ใจหาย วันวังเวงอย่างนี้ไม่คลี่คลาย และจะคงนานแค่ไหนกัน ทำไมรู้สึกไม่มีกำลังใจเช่นนี้ รู้สึกท้อเหน็ดเหนื่อยเหมือนอยู่ตัวคนเดียวทั้งที่เพื่อนๆและคนสำคัญอยู่ข้างกายฉันตลอดมาแล้วตัวฉันเป็นอะไรกัน จากบ้านไกลทีไรใจจะสั่น หรือเป็นเพราะอะไรกันกับตัวฉันเองนั่งร้องไห้ระเลงบรรเลงทุกข์ ค่อยๆลุกจากที่เดิมจากไป ไม่มีกำลังใจ จะทำอะไร
          คุณครูที่สอนว่า เส้นชัยเราต้องเป็นผู้ไคว่คว้ามันเพราะมันคงไม่มาหาเรา ดวงดาวบนท้องฟ้านั้นก็เหมือนกัน ที่รอคอยเวลาให้ผู้กล้า ผู้เข้มแข็ง อย่างพวกเราเยาวชนไทยได้ไปคว้ามาสักที เพื่อนำมันมาประดับไว้ข้างกาย ที่สำคัญคืออย่าท้อ ถ้าท้อก็สู้ สู้แล้วอย่าถอยต้องนำเส้นชัยมาให้กับความมุ่งมั่น ความสำเร็จและความสมหวัง ถ้าใครรู้สึกท้อให้นึกถึงเราเสมอว่าถ้าเธอไม่มีกำลังใจสู้ต่อไปในวันข้างหน้า ให้นึกถึงคนที่คุณรักและหวังดีกับคุณมากที่สุด คนที่รอความสำเร็จ รอความหวังที่จะเป็นที่พึ่งต่อไปให้กับใครคนนั้น คนที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เราโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ และคือใครอีกคนหนึ่งที่คอยเป็นกำลังใจให้เราอย่าท้อ และบอกกับตัวเองว่า ถ้าท้อขอศรัทธา คำว่าศรัทธาในที่นี้หมายถึงเพลงศรัทธาที่ร้องร่วมกันในวันวาน
        คุณครู ( พี่ตุ๊ก) ที่เปิดเพลงให้ฉันได้มีกำลังใจสู้ต่อไปอย่าไม่หวั่นไหว ในอุปสรรคใดๆ ถ้าทุกคนท้ออย่างที่ฉันเป็นในวันนี้ วันที่เราได้อยู่ร่วมกัน เข้าคายร่วมกัน ร้องเพลงร่วมกัน อย่างฉันพี่น้อง ให้นึกถึงเพลงศรัทธาให้ฝังใจ
         หวังว่ากิจกรรมดีๆเช่นนี้ จะเกิดขึ้นให้กับเยาวชนไทย ที่รักไทยหัวใจศิลป์อีกต่อไปเรื่อยๆโดยมิให้ค่ายวรรณศิลป์นี้จบลงแค่ตรงนี้ ยามนี้เพียงครั้งเดียวแต่จะมีต่อไปอีกโดยมีการอนุรักษ์ภาษา วัฒนธรรมและสถานที่โบราณต่างๆไว้ให้คนรุ่นต่อๆไปได้ศึกษาอย่างที่เราได้ศึกษา