ลุงเชิด
นุ่มพรม แม้มีอายุกว่า 70 ปี บ้านอยู่ข้างวัดพระบรมธาตุนครชุม ท่านเป็นสุดยอดศิลปิน
ทางด้านร้อง ด้านรำ และมีความสามารถ ในการทำเครื่องดนตรีไทย ได้หลายชนิด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำปี่ และการขุดกลอง และลุงเชิดยังสามารถ ตีกลองและเป่าปี่ได้อย่างชำนาญอีกด้วย
นับว่าเป็นบุคคลแห่งภูมิปัญญาที่น่ายกย่องของกำแพงเพชรอีกท่านหนึ่ง
ลุงเชิดเกิดในครอบครัวนักดนตรี
พบเห็นการทำเครื่องดนตรีมาตลอด และช่วยบิดาขุดกลอง มาตั้งแต่ยังเยาว์วัย
ยึดอาชีพการขุดกลองมาตลอดชีวิต นอกจากงานขุดกลองและการทำปี่แล้ว ที่ถึงขั้นเชี่ยวชาญแล้ว
ลุงเชิดยังเป่าปีและตีกลอง ได้อย่างหาตัวจับยาก
..
หลังจากขุดแต่งกลองเรียบร้อยแล้ว
จะนำหนังวัว หรือหนังควาย แต่ต้องมีอายุ 6 เดือน ขึ้นไป เพราะความหนาของผืนหนังจะเท่ากัน
แล้วนำมาฟอกและตากให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันการเน่าของหนังกลอง นำหนังกลองมาวัดให้ได้ขนาดที่ใหญ่กว่ากลองเล็กน้อย
แล้วตัดเป็นวงไปขึ้นหนังกลอง ขณะที่ขึ้นหนังกลอง ต้องเอาน้ำมาลูบอยู่เสมอ
เพื่อให้หนังอ่อนและง่ายต่อการขึ้นรูป เมื่อขึ้นรูปจนตึงได้ที่แล้ว
ก็ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท แล้วเคาะดูว่าได้เสียงตามที่ต้องการหรือไม่ หากยังไม่ได้ตามที่ต้องการ
ก็เอาน้ำลูบที่หนังเพื่อให้หนังหย่อน แล้วขึ้นหน้ากลองอีกครั้ง จนกว่าจะได้เสียงตามต้องการ
จากนั้นใช้กระดาษทรายขูดที่หนังเพื่อให้เรียบเสมอกัน
.
ลุงเชิดชอบช่วยเหลือสังคม
ช่วยเหลือ งานวัด งานโรงเรียน งานประเพณี นบพระเล่นเพลงของจังหวัดมาตลอด
นับว่าเป็นบุคคล ตัวอย่างและแนวทางในการดำเนินชีวิตที่น่าสนใจยิ่ง
ลุงเชิด
นุ่มพรม ท่านเล่าให้ฟังว่าท่านอยากเห็น เยาวชนของไทย หันมาสนใจเรื่องของ
วัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น งานฝีมือที่น่าอนุรักษ์ อยากอนุรักษ์ความเป็นไทยไว้ให้คงอยู่ตลอดไป
อยากเห็นเยาวชนเล่นดนตรีไทยได้
.. ตีกลองได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
กลองยาวมีเทคนิคการตีที่หลากหลาย ท่านยินดีที่จะ
สอนให้ทุกคนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
เป็นครูภูมิปัญญาไทยโดยแท้
..สมควรที่ได้บันทึกและยกย่องจากสังคมอย่างยิ่ง
|