การแสดงของนักเรียน
บุคคลดีเด่น
มหกรรมวัฒนธรรมภาคเหนือคนดีที่สังคมเพรียกหา
คนไทยทุกคนต่างต้องการเห็นคนดีในสังคม และทุกสังคมต่างอยากเห็นคนดี แต่จะมีสักกี่คนที่
ยกย่องคนดี สังคมพากันยกย่องคนร่่ารวย คนมีอ่านาจ คนมียศศักดิ์ มีต่าแหน่ง ผู้คนพากันละเลยในการ
ชื่นชมยกย่องคนดีกัน คนดี จึงกลายเป็นคนส่วนน้อยของสังคมและไม่กล้าเปิดเผยตัวในที่สุด ถ้าเราไม่ยก
ย่องให้เกียรติคนดี ประกาศให้สังคมรับทราบ สังคมอาจจะเลวร้ายไปกว่านี้อีก
คนดีเมืองก่าแพงเพชรที่เราเคยพบเห็นนี้ คือ นายทรงยศ ฤกษ์สุขสมบัติ อายุ 48 ปี อาชีพรับเหมา
ท่าหินขัด อยู่บ้านเลขที่ 163 หมู่ 15 ต่าบลเทพนคร อ่าเภอเมือง จังหวัดก่าแพงเพชร ได้พบเงินสดจ่านวน
หนึ่งแสนบาท ตกอยู่ข้างถนน ด้วยความส่านึกในความดีงาม และศีลธรรม จึงโทรศัพท์บอกภรรยา ชื่อนาง
ปรียา ฤกษ์สุขสมบัติ ซึ่งมีอาชีพเปิดร้านขายของ ลักษณะคล้ายซุปเปอร์มาเกตที่ต่าบลเทพนคร
ว่าเก็บเงินได้จ่านวนหนึ่งแสนบาทจะคืนเจ้าของ ภรรยาซึ่งเป็นคนดีเหมือนกันก็บอกว่าให้คืนเจ้าของไป เถิด
เจ้าของเขาคงเดือดร้อน ความจริงคุณทรงยศ ฤกษ์สุขสมบัติมิได้ร่่ารวยแต่ประการใดแต่ด้วยความซื่อสัตย์
สุจริตจึงคิดคืนเงินแก่เจ้าของ และเมื่อคุณปรียา ภรรยาทราบแล้วจึงตัดสินใจน่าเงินทั้งหมดไปมอบให้
เจ้าหน้าที่ต่ารวจประกาศหาเจ้าของเงิน
ในที่สุดนางสาวจรรยา แข็งธัญญาการสาวพนักงานธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดก่าแพงเพชรได้มา
รับเงินคืนด้วยความปลาบปลื้มใจในความดีงาม และซื่อสัตย์ของนายทรงยศ ฤกษ์สุขสมบัติ ต่อ
หน้าพันต่ารวจโทสิทธิพันธ์ วันที รองผู้ก่ากับสถานีต่ารวจภูธรเมืองก่าแพงเพชร ร่วมเป็นสักขีพยานแห่ง
ความดี ด้วยความชื่นชม ของผู้รู้เห็นทุกคน
จากการสอบถามนางสาวจรรยา แข็งธัญญาการ ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 25 ซอย 3 ถนนประชาหรรษา
ต่าบลในเมือง อ่าเภอเมือง จังหวัดก่าแพงเพชรผู้ท่าเงินแสนหล่นหาย พอเธอทราบว่ามีคนเก็บเงินได้ก็รีบ
เดินทางมารับที่สถานีต่ารวจด้วยความดีใจ และซาบซึ้งในความดีงามและความซื่อสัตย์ของคุณทรงยศเป็น
อย่างยิ่ง
คุณจรรยา แข็งธัญญการ เล่าว่าเธอ น่าเงินสดจ่านวน หนึ่งแสนบาท เป็นธนบัตรฉบับละ หนึ่งพัน
บาท จ่านวนหนึ่งร้อยฉบับ ใส่ไว้ในซองสีแดง เพื่อจะน่าเงินจ่านวนดังกล่าวโอนจ่ายเป็นค่าของที่ธนาคารแห่ง
หนึ่ง โดยน่าซองธนบัตร ใส่ในกระเป๋าเสื้อคลุมสีด่า จากนั้นก็ขับขี่จักยานยนต์ออกจากบ้านไปธนาคาร
ระหว่างทางแวะรับประทานอาหาร ขณะรับประทานได้คล่าที่กระเป๋าเสื้อไปพบเงินตกใจมาก เพราะเงิน
ทั้งหมดหายไป จึงได้รีบย้อนกลับมายังเส้นทางที่ผ่านมา มองหาอย่างละเอียดแต่ก็ไม่พบคิดในใจว่าคงไม่
สามารถตามคืนได้แล้ว รู้สึกสับสนและกลุ้มใจ ไม่ทราบว่าจะหาทางแก้ปัญหาได้อย่างไร
ในที่สุดเธอได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ต่ารวจว่ามีผู้พบเงินที่เธอท่าหายและน่ามาคืนให้ ท่าให้เธอ
รู้สึกดีใจมาก และไม่คิดว่ายังมีคนดีซื่อสัตย์สุจริต อย่างนี้อยู่ในสังคมปัจจุบัน คุณทรงยศ ฤกษ์สุขสมบัติ เป็นบุคคลที่สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นคนดีของสังคมเปิดเผยว่า
ตนเองมิได้ร่่ารวยแต่ประการใด โดยเปิดร้ายขายของ และรับเหมาท่าหินขัด รับจ้างก่อสร้างทั่วไป เงินหนึ่ง
แสนส่าหรับตนถือว่าเป็นเงินจ่านวนมาก เพราะท่างานทั้งปี ยังไม่สามารถ หาเงินแสนได้เลย ที่คืนให้เจ้าของ
เพราะคิดว่า เจ้าของเงินจะต้องเดือดร้อนอย่างแน่นอน เพราะเศรษฐกิจไม่ดี เงินหายาก จึงตัดสินใจน่าเงินไป
คืนแก่เจ้าของ แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร จึงน่ามาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ต่ารวจทราบ ด้วยความสามารถของเจ้าหน้าที่
จึงสามารถติดต่อให้คุณจรรยา แข็งธัญญการ มารับคืนไปได้
คุณทรงยศ สุขฤกษ์สมบัติ คนดีที่สังคมเพรียกหา คนดีที่หายากในสังคมปัจจุบัน เกิดวันที่
1มกราคม พ.ศ. 2506 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรคนที่สองในจ่านวนพี่น้องเจ็ดคน ของคุณพ่อบุญยงค์ และ
คุณแม่อัมพร ฤกษ์สุขสมบัติ เรียนระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนเทศบาลเมืองสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย
เรียนระดับมัธยมที่โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยาคม อ่าเภอสวรรคโลก เรียนต่อระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ที่
วิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงที่วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ แผนกวิชาช่างก่อสร้าง
คุณทรงยศ มาท่างานที่จังหวัดก่าแพงเพชร และได้พบกับสาวเทพนคร ซื่อคุณปรียา จันทร์คง เมื่อปี
พุทธศักราช 2531 และได้สมรสกับสาวงามเมืองเทพนคร ในปี พ.ศ. 2533 ที่บ้านเทพนคร มิดาที่น่ารัก สอง
คน ขณะนี้ก่าลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนก่าแพงเพชรพิทยาคม คือ
นางสาวบุศยมาศ ฤกษ์สุขสมบัติ อายุ 15 ปี และเด็กหญิงภัสราภรณ์ ฤกษ์สุขสมบัติ อายุ 12 ปี
ซึ่งทั้งสองสาว ต่างชื่นชมและภูมิใจในตัวคุณพ่อของตนอย่างที่สุด
สภาวัฒนธรรมจังหวัดก าแพงเพชร จึงขอประกาศยกย่อง ให้ คุณทรงยศ สุขฤกษ์สมบัติ เป็นผู้มี
ความซื่อสัตย์สุจริต สมควรได้รับการยกย่อง ให้เป็นคนดีเมืองก าแพงเพชร และขอให้ คุณทรงยศ สุขฤกษ์
สมบัติ รักษาความดีงามนี้ตลอดไป
สันติ อภัยราช
ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดก่าแพงเพชร
1 กันยายน 2551