หัวข้อ: จดหมายเหตุประพาสต้นเมืองกำแพงเพชร เริ่มหัวข้อโดย: apairach ที่ สิงหาคม 29, 2014, 09:08:47 pm กรุพระเครื่อง เมืองคนแกร่ง ศิลาแลงใหญ่ กล้วยไข่หวาน น้ำมันลานกระบือ เลื่องลือมรดกโลก นี่เป็นคำขวัญของจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีอุทยานประวัติศาสตร์มากมายที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมความงามของเมืองเก่า และกำแพงเพชรมีเมืองเก่ามาก่อน คือ เมืองชากังราว และเมืองนครชุม นับตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน นับได้ ๑๐๘ ปีมาแล้วที่ประชาชนคนไทยชาวจังหวัดกำแพงเพชรปลื้มปิติยินดีที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระพุทธเจ้าหลวง (รัชกาลที่ ๕ ) ทรงเสด็จมายังกำแพงเพชร และทรงมาเมืองนครชุม แต่เดิมเรียกว่า นครพระชุม และพระองค์ได้มาสักการะพระพุทธรูปและต้นศรีมหาโพธิ์ และทรงพอพระราชหฤทัยในการชมธรรมชาติบ้านเมืองของชาวจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งพระองค์ได้เยี่ยมชมบ้านเมืองของชาวจังหวัดกำแพงเพชรได้อย่างพอพระราชหฤทัย
ตามรอยเสด็จประพาสต้น พระพุทธเจ้าหลวง ณ เมืองกำแพงเพชร จากการที่ดิฉันได้ไปฟังคำบรรยายในงาน มหกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระมหากษัตริย์ไทยกับเมืองกำแพงเพชร ?พลังภูมิปัญญา พลังวิถีธรรม พลังความปรองดอง ? วันที่ ๒๕ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๒๕๗ ซึ่งจัดสถานที่ที่วัดพระบรมธาตุนครชุม ซึ่งพระพุทธเจ้าหลวงทรงเสด็จมาวัดพระบรมธาตุแห่งนี้ ดิฉันได้ฟังบรรยายจากวิทยากรโดย อาจารย์สันติ อภัยราช และดิฉันได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตว่าจดหมายเหตุประพาสต้นกำแพงเพชร ซึ่งได้ข้อเท็จจริงว่าตั้งแต่โบราณกาลมาแล้วเมืองนครชุมแต่เดิมเรียกว่า นครพระชุม ทุกคนชาวจังหวัดกำแพงเพชร และตัวดิฉันนั้นอยากทราบว่าเหตุใดพระพุทธเจ้าหลวง (รัชกาลที่ ๕) ได้ทรงเสด็จมาเมืองกำแพงเพชร และทรงมาวัดพระบรมธาตุเพราะเหตุใด ซึ่งดิฉันได้คำตอบคือ เป็นเพราะชาวบ้านจังหวัดกำแพงเพชรเขตนครชุมได้อพยพย้ายถิ่นฐานไปอาศัยอยู่ที่อื่น เพราะนครชุมในสมัยนั้นมีโรคภัยมาเบียดเบียนชาวบ้านนครชุม และบ้างก็ว่าเป็นถิ่นฐานอาศัยที่ไม่ดี จึงทำให้ชาวนครชุมย้ายไปอยู่ที่อื่น จึงทำให้พระพุทธเจ้าหลวงทรงมาค้นหาความจริงและเสด็จมาอย่างสามัญชน เพื่อพิสูจน์ว่าขนาดพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จมาก็ไม่เห็นเป็นอะไร และพระพุทธเจ้าหลวงทรงอยากเห็นประชาชนของพระองค์ อยากเห็นสภาพบ้านเมืองกำแพงเพชร ซึ่งพระองค์เสด็จประพาสต้นเมืองกำแพงเพชรครั้งที่ ๒ เมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๙ พระพุทธเจ้าหลวงทรงเสด็จประพาสถึงเขตเมืองกำแพงเพชร เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ทรงเสด็จประพาสเขาหน่อประทับแรมเมืองขาณุ วันที่ ๑๙ สิงหาคม เสด็จทอดพระเนตรคนผมแดงแล้วเสด็จไปประทับแรมที่บางแขม วันที่ ๒๐ เสด็จไปประทับแรมตำบลวังนางร้าง วันที่ ๒๑ ประทับแรมตำบลท่าขี้เหล็ก วันที่ ๒๒ เสด็จประพาสวัดวังพระธาตุ แล้วไปประทับแรมเมืองกำแพงเพชร วันที่ ๒๓ เสด็จประพาสเมืองกำแพงเพชรพระบรมราชาธิบายเรื่องเมืองกำแพงเพชรเก่า วันที่ ๒๕ เสด็จประพาสคลองสวนหมาก ไปบ้านพะโป้ และวัดพระบรมธาตุ วันที่ ๒๖ ทรงถ่ายรูปคนตระกูลพระยากำแพงเพชรเก่า เสด็จประพาสวัดคูยาง ตั้งชื่อถนนราชดำเนิน แล้วเสด็จล่องจากกำแพงเพชร วันที่ ๒๗ ประทับแรมบ้านแดน บันทึกการเดินทางตามรอยพระบาทประพาสต้นพระพุทธเจ้าหลวงไปบ้านพะโป้ พ่อค้าไม้แห่งคลองสวนหมาก ในวันที่ ๒๕ พระพุทธเจ้าได้ลงเรือข้ามฝากไปฝั่งตะวันตก ยังไม่ขึ้นวัดพระธาตุเลยไปคลองสวนหมาก ในคลองมีน้ำไหลเชี่ยว แต่น้ำใสเพราะเป็นลำห้วย และพระองค์เสด็จไปบ้านพะโป้ ผู้ค้าไม้ที่ชาวกำแพงเพชรให้ความเคารพแก่พะโป้ ซึ่งพระองค์ทรงถ่ายรูปบ้านของพะโป้ และบ้านใกล้เคียงอีกหลังหนึ่ง ซึ่งนับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่พระพุทธเจ้าหลวงทรงเสด็จเยี่ยมบ้านในครั้งนี้ และพระองค์ทรงรับประทานอาหารกลางวันที่หาดกลางน้ำ บันทึกการเดินทางตามรอยไปวังพระธาตุ นครไตรตรึงษ์ เมืองท้าวแสนปม ในวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๔๔๙ พระพุทธเจ้าหลวงทรงให้ความสำคัญต่อวังพระธาตุที่สำคัญๆกับเมืองนครไตรตรึงษ์ และพระองค์ทรงเสมือนดวงตะวันที่ส่องแสงสว่างให้แก่ชาวกำแพงเพชรให้ปราศจากโรคร้าย ไข้ป่า ภัยธรรมชาติ ความสงบ ปลอดภัยจึงมาเยือนแก่ชาวบ้านกำแพงเพชรอีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๔๔๙ การบันทึกประพาสต้นพระพุทธเจ้าหลวงไปวัดพระบรมธาตุ เมืองนครชุม พระพุทธเจ้าหลวงทรงเสด็จมาวัดพระบรมธาตุโดยใช้เรือหางแมงป๋อง พระองค์มากราบไหว้ คุกเข่ากราบพระพุทธรูป พระบรมธาตุ และสักการะต้นศรีมหาโพธิ์ พะโป้เป็นคนบุกเบิกพระบรมธาตุนครชุม ซึ่งพระบรมธาตุครั้งแรกทาสีทอง ผ่านมา ๒๐ ? ๓๐ ปีกลายเป็นสีดำด่าง ต่อมาได้ทาสีขาว และต่อมาได้ทาสีทองอย่างเช่นปัจจุบัน ต่อมาพระพุทธเจ้าหลวงทรงได้รับดาบฟักทอง พระแสงราชศัสตราประจำเมืองกำแพงเพชรจากหลวงพิพิธอภัย พระองค์ทรงเห็นความสำคัญจึงมอบดาบนี้ให้พระวิเชียรปราการเจ้าเมืองกำแพงเพชรในขณะนั้นให้เป็นแสงราชศัสตรากับเมืองกำแพงเพชรสืบไป ต่อมาพระพุทธเจ้าหลวงทรงเห็นเทวรูปอันสำคัญของเมืองกำแพงเพชร พระพุทธเจ้าหลวงทรงเรียกเทวรูปนี้ว่า พระอิศวร นับตั้งแต่นั้นมาก็เป็นสิ่งที่เคารพนับถือของชาวกำแพงเพชรมาช้านาน พระพุทธเจ้าหลวงทรงทอดพระเนตรเห็นสาวงามเมืองกำแพงเพชรชื่อแม่หวีดเป็นบุตรหลวงพิพิธอภัย อายุ ๑๖ ปี ซึ่งมีรูปพรรณสัณฐานดีกว่าเมืองอื่นในข้างเหนือ และเป็นคนรู้จักโพสต์ถ่ายรูป นอกจากนี้พระพุทธเจ้าหลวงทรงเสด็จไปวัดเสด็จเพื่อถ่ายรูปหน้าวัด และทรงเสด็จประพาสต้นวัดคูยาง ทรงผ่านถนนสายในว่างามมาก พระองค์จังตั้งชื่อไว้ว่าถนนราชดำเนินจวบจนปัจจุบันพระองค์ทรงชมความงามของหอไตรวัดคูยาง เสด็จประพาสต้นไปศาลหลักเมืองกำแพงเพชร ประพาสต้นวัดพระแก้วพระพุทธเจ้าหลวงทรงประพาสต้นเมืองกำแพงเพชรเป็นเวลารวม ๑๐ วัน จากวันนั้นจนวันนี้ชาวจังหวัดกำแพงเพชรก็ประทับใจ และจดจำภาพเหล่านั้นได้อยู่เสมอ ปู่ย่า ตายายก็บอกเล่าสู่รุ่นลูกรุ่นหลานให้ฟังกัน ต่อมาไม่นานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช (รัชกาลที่ ๙) และพระราชินี ทรงเสด็จมากำแพงเพชรในปีพุทธศักราช ๒๕๑๐ ทรงเสด็จมาเยือนกำแพงเพชรถึง ๓ ครั้ง ครั้งที่ ๑ ทั้งสองพระองค์บรวงสรวงพระนเรศวร และทรงปลูกต้นสัก ในหลวงทรวงปลูกด้านขวามือ พระราชินีทรงปลูกด้านซ้ายมือ ครั้งที่ ๒ ทั้งสองพระองค์ทรงพระราชกฐินแก่วัดคูยาง และครั้งที่ ๓ ทรงมาเปิดพิธีในวันลูกเสือชาวบ้านออและได้พระราชทานสิ่งของแก่ประชาชนของพระองค์ ผ่านมา ๑๐๘ ปีแล้วพระพุทธเจ้าหลวงยังคงสถิตในใจชาวกำแพงเพชรอย่างมิรู้ลืมที่พระพุทธเจ้าทรงเคยเสด็จประพาสต้นมาแล้ว และทรงมีความเป็นกันเอง โดยพระองค์มาอย่างสามัญชนคนธรรมดา ซึ่งชาวกำแพงเพชรประทับใจไม่เคยลืมเลือน และชาวกำแพงเพชรได้มีความปลื้มปิติอีกครั้งหนึ่งที่ในหลวงและพระราชินีทรงมาเยี่ยมเยียนประชาชนชาวจังหวัดกำแพงเพชรของพระองค์เอง และถ้าไม่มีพระพุทธเจ้าหลวง(รัชกาลที่ ๕) และในหลวง พระราชินี นครชุม เมืองกำแพงเพชร ก็คงจะไม่มีชื่อเสียงเรียงนามให้ทุกคนได้เรียกอย่างทุกวันนี้ นางสาวสุธาพร มาน้อย รหัสนักศึกษา ๕๕๑๑๒๑๕๐๙ หัวข้อ: Re: จดหมายเหตุประพาสต้นเมืองกำแพงเพชร เริ่มหัวข้อโดย: apairach ที่ กันยายน 01, 2014, 01:08:52 pm ละเอียดชัดเจน ให้ ๑๐ คะแนน
|