หัวข้อ: #ดาบที่สร้างจากประวัติศาสตร์ ... #ดาบรามเพชรรัตน์ อนุสรณ์เจ้ากำแพงเพชร ... #พระ เริ่มหัวข้อโดย: apairach ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2020, 09:08:36 pm #ดาบที่สร้างจากประวัติศาสตร์
... #ดาบรามเพชรรัตน์ อนุสรณ์เจ้ากำแพงเพชร ... #พระแสงราชศัสตราแห่งเมืองกำแพงเพชร เป็นพระแสงประจำเมืองเล่มเดียวในประเทศที่เป็นของเก่าที่แท้จริง เนื่องด้วยเป็นพระแสงที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ให้เป็นบำเหน็จความดีความชอบในการศึกปัตตานี ในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แก่ พระยากำแพงเพชร นุช ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองกำแพงเพชรคนที่ 2 ต่อจากบิดา ส่วนพระแสงประจำเมืองของจังหวัดอื่น ๆ ล้วนสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา ... #พระยากำแพงเพชรนุช นั้นเป็นใคร ?? ทำไมจึงได้รับพระราชทานพระแสงทองคำ ?? ... ในสงครามเก้าทัพนั้น สมรภูมิทางใต้ อย่างหัวเมืองแขกมลายู นั้นมีความสำคัญเท่าๆ กับหัวเมืองเหนือ โดยเฉพาะรัฐปัตตานี อันเป็นศูนย์กลางอำนาจแห่งหนึ่งในคาบสมุทรมลายู การที่สยามรบชนะยึดเมืองปัตตานีได้ พร้อมชะลอปืนใหญ่อย่าง พญาตานี อันเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจทางการทหารมาไว้ยังกรุงเทพฯ ตามธรรมเนียมการศึกสงครามนั้นก็เหมือนกับที่สยามสมัยพระเจ้าตากสินมหาราชตีเวียงจันทร์แล้วอัญเชิญพระแก้วมรกตมายังกรุงธนุรี นั่นเอง ... การศึกปัตตานีในสมัยรัชกาลที่ 1 นั้นมี 3 ครั้ง คือ ศึกใหญ่ในช่วงสงคราม 9 ทัพ ปี พ.ศ. 2328 ศึกปัตตานีครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2334 และศึกปัตตานีครั้งที่ 3 ปี พ.ศ.2351 ซึ่งใน 2 ครั้งหลัง จัดเป็นศึกปราบกบฏ จึงมีคำถามว่า พระยากำแพงเพชรนุช ท่านได้ความดีความชอบจากศึกไหน ??? ซึ่งเราคงต้องสืบค้นกันต่อไป ... ในเอกสารที่บันทึกถึงพระยากำแพงเพชรนุชนั้น มีการกล่าวว่าท่านเป็นก๊กวังหลัง คำว่า ก๊กวังหลัง นั้นตีความหมายได้ค่อนข้างกว้างมาก แต่ไม่น่าจะใช่ขุนนางในกรมพระราชวังหลัง เพราะรัชกาลที่ 1 ทรงแต่งตั้งหลานขึ้นเป็นกรมพระราชวังหลัง ครั้งเมื่อเสร็จศึกสงครามเก้าทัพ และกรมพระราชวังหลังทรงขึ้นไปปราบศึกหัวเมืองเหนือ มิใช่หัวเมืองใต้ อย่าง ศึกปัตตานี ดังนั้นจึงเหลือเพียงประการเดียว คือ พระยากำแพงเพชรนุช ต้องมีความเกี่ยวข้องในระดับเครือญาติ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ... #พระยากำแพงเพชรนุช นั้นถึงจะมิได้มีความสำคัญเทียบเท่าเจ้าหัวเมืองเหนือ อย่าง เชียงใหม่ ลำปาง หรือน่าน ที่เสมือนเจ้าประเทศราชในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ อันเป็นที่มาของราชสกุล อย่าง ณ เชียงใหม่ ณ ลำปาง หรือ ณ น่าน เป็นต้น แต่ตามบันทึกนั้นปรากฏว่า ภรรยาของท่านสืบสายโลหิตเจ้าเมืองเชียงแสน และมีเชื้อสายชาวกาวเมืองน่าน ยิ่งเป็นเครื่องช่วยยืนยันถึงโอกาสที่ พระยากำแพงเพชรนุช จะเป็นหนึ่งในพระประยูรญาติ หรือเป็นเครือญาติที่เกี่ยวพันกับรัชกาลที่ 1 มากยิ่งขึ้นอีกประการหนึ่ง และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลูกหลานของพระยากำแพงเพชรนุช ได้สืบทอดตำแหน่งเจ้าเมืองกำแพงเพชรกันมาอีกหลายรุ่นเกือบ 100 ปี จึงเปลี่ยนเจ้าเมืองเป็นคนจากสกุลอื่นแทนในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 ... #พระแสงราชศัสตราแห่งกำแพงเพชร ... การได้รับพระราชทานพระแสงดาบจากรัชกาลที่ 1 ในลักษณะนี้ เรียกได้ว่าเป็นการพระราชทานไว้เป็นประจำ ผู้ที่ได้รับพระราชทานย่อมต้องเป็นที่โปรดปรานเป็นพิเศษ แต่ถือว่าเป็นการพระราชทานเป็นส่วนพระองค์เพื่อส่วนตัวของผู้นั้นเอง พระแสงดาบนี้จึงมิได้มีอำนาจอาญาสิทธิ์ในราชการเมือง ซึ่งสุดท้ายจากพระแสงราชศัสตราจึงเลือนกลายเป็นดาบประจำตระกูลไปในที่สุด (กรมศิลปากร , พระแสงราชศัสตราประจำเมือง : ๒๕๓๙ หน้า ๕๒ ) ... ตั้งแต่ต้นสมัยรัตนโกสินทร์มานั้น มีการพระราชทานพระแสงดาบในลักษณะนี้เพียง 2 เล่ม ซึ่งอีกเล่มหนึ่งคือ พระแสงดาบที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 3 พระราชทานให้กับเจ้าพระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) แต่ปัจจุบันจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพฯ ส่วนพระแสงดาบกำแพงเพชร เก็บรักษาไว้ที่ห้องมั่นคง สำนักงานคลังจังหวัดกำแพงเพชร โดยไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชม ยกเว้นทายาทพระยากำแพงเพชร ในสายสกุลต่างๆ ที่มาร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายพระพุทธเจ้าหลวง เนื่องในวันปิยะมหาราช เดือนตุลาคม เท่านั้น ... สายสกุลทายาทพระยากำแพงเพชร นั้น มี 9 สกุลหลัก คือ กำแหงสงคราม กลิ่นบัว นาคน้อย นุชนิยม รอดศิริ รามบุตร รามสูต ศุภดิษฐ์ และอินทรสูต และยังมีสกุลที่เกี่ยวข้องอีก 6 สกุล ปัจจุบันผู้ที่เป็นทายาทสายเลือดพระยากำแพงเพชรน่าจะมีถึงหลักพันคน บางท่านเป็นนายทหารระดับผู้ใหญ่ บางท่านเป็นนักธุรกิจใหญ่ เป็นข้าราชการผู้ใหญ่ เป็นครูอาจารย์ เป็นพ่อค้า เป็นเกษตรกร เรียกได้ว่า ครอบคลุมทุกระดับชั้น ... ผมในฐานะทายาทรุ่นที่ 9 ในสายสกุล รามสูต ทายาทจากสายพระยารามรณณรงค์สงคราม (เกิด) เจ้าเมืองกำแพงเพชรคนที่ 7 แห่งรัชสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นหลานตาของพระยากำแพงเพชรนุช ด้วยจิตสำนึกในเกียรติภูมิของบรรพบุรุษทุกๆ รุ่น ลงมาถึงบิดาและมารดาของผม ที่ล้วนรับราชการสนองคุณแผ่นดินมาโดยตลอด จึงขอยอยกพระแสงดาบกำแพงเพชร ขึ้นเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ ศัสตราทายาท อันดาบรามเพชรรัตน์นั้น คำว่า “ราม” มาจากตำแหน่งเจ้าเมืองกำแพงเพชร คือ ออกญารามรณณรงค์สงครามฯ คำว่า “เพชร” มาจากชื่อเมืองกำแพงเพชร คำว่า “รัตน์” (รัตนะ) ที่แปลว่าแก้ว นั้นมาจาก พระแก้วมรกต ที่เคยประดิษฐาน ณ วัดพระแก้ว เมืองกำแพงเพชร ดาบรามเพชรรัตน์เล่มนี้จึงมีต้นกำเนิดเป็นสิ่งสำคัญ เป็นเรื่องราวและตำนานของเมืองกำแพงเพชรไว้อย่างครอบคลุม ให้ปรากฏเป็นอนุสรณ์แห่งเจ้ากำแพงเพชร สืบไป ... โดยในการนี้ได้จำลองลักษณะใบดาบของพระแสงกำแพงเพชร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างดาบ ในการนี้ ศัสตราเมธี ครูพรชัย ตุ้ยดง ได้ใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ยืนยันว่า พระแสงดาบกำแพงเพชรนี้ เป็นดาบ ล้านนาทรงเจ้าลำปาง ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวของ ปราชญ์เมืองกำแพงเพชร อาจารย์สันติ อภัยราช ที่เป็นผู้มีส่วนร่วมในการบูรณะพระแสงดาบกำแพงเพชรองค์จริงมาตั้งแต่ต้น ว่าเป็นดาบล้านนา อย่างมิต้องสงสัย ... โดยพระแสงราชศัสตราเมืองกำแพงเพชรนั้น ใบทรงเจ้าลำปางยาว 18 นิ้ว ด้ามยาว 15.5 นิ้ว ใบกว้างสุด 1 นิ้ว หลูบด้วยทองคำทั้งด้ามและฝักตามจารีตดาบล้านนา เพียงแต่ที่ด้ามไม่ใส่ลูกแก้ว ที่คอด้าม ก่อนการบูรณะมีน้ำหนักรวมด้ามฝักและใบ 636.2 กรัม ... ดาบรามเพชรรัตน์ ใบทรงเจ้าลำปางยาว 20 นิ้ว ด้ามยาวรวม 18 นิ้ว ใบตีจากอุกกาบาตชนิดเหล็ก ด้ามไม้ไผ่สีสุกโค้งธรรมชาติ และฝักไม้สักทอง ทั้งด้ามและฝักหลูบด้วยเงินแท้ชุบทองคำ ส้นด้ามใส่แก้วผลึกใสกลึง ปลายฝักหลูบด้วยแผ่นทองแดง สร้างตามศิลป์และจารีตล้านนาผสมลาว โดยในการนี้ ผมได้นำคติความเชื่อเรื่อง อัษฎมงคล 8 ประการ ของพุทธนิกายตันตระ มาประยุกต์และสอดแทรกในการหลูบดาบรามเพชรรัตน์ #ส้นด้าม เป็นแก้วผลึกแกะลายก้นหอยสังข์มงคล มีดอกบัวมงคลบานมารองรับ #ด้าม ใส่บัวรัดมีลายหนาเป็นข้อ ๆ แทน ฉัตรมงคล 9 ชั้นและ 5 ชั้น #กลุ่มลายบัว ในทุกข้อ จบด้วยบัวลายหางปลามงคล #บัวรัดตรงรอยต่อด้ามกับฝัก มีลายเปียถัก 4 หรือลายเงื่อนมงคล #ใส่ตะหวา ทองแดงตอกลายธรรมจักรมงคล #ฝัก ใส่กลุ่มลายบัวคู่ แบ่งฝักเป็น 3 ช่วง แทน ตุงมงคลหรือธงทางล้านนา #ตัวฝักแทนภาชนะ หม้อน้ำ ปูรณฆฏะ โดยแกะลายดอกพุดตานที่ขอบฝัก ... #งานหลูบเงินชุบทอง นี้จะสำเร็จออกมามิได้หากไม่ได้ สล่าหลูบเงินผู้มีฝีมือฉกาจฉกรรจ์ อย่าง #สล่าแคบหมู ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ปี พ.ศ.2563 นายธีร์ธวัช แก้วอุด มาเป็นผู้สร้างสรรค์งาน สำหรับดาบรามเพชรรัตน์ เล่มนี้ ยังมีรายละเอียดที่ผมอยากนำเสนอเพิ่มเติมอีกในครั้งต่อไป อาจเป็นในงานพินิจศาสตราฯ ที่จะจัดขึ้นในเดือนนี้ ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จึงขอเชิญชวนท่านผู้สนใจ มาเที่ยวชมงานได้ ซึ่งจะมีดาบที่สวยงามและทรงคุณค่าของท่านอื่นๆอีกมากมายมาให้ร่วมชมกัน |