หัวข้อ: เจ้าเมืองกำแพงเพชรไปเมืองจีนสืบค้นโดยอาจารย์รุ่งเรือง สอนชู เริ่มหัวข้อโดย: apairach ที่ มกราคม 25, 2011, 02:59:16 pm เจ้าเมืองกำแพงเพชรไปเมืองจีน
สืบค้นโดยอาจารย์รุ่งเรือง สอนชู หนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ หน้า 115 ได้กล่าวถึงสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ว่าได้ยึดเมืองพิษณุโลกได้โดยทำเป็นทีว่าเอาข้าวมาขาย ให้หลวงพะงั่วเจ้าเมืองสุพรรณบุรีขึ้นมาครอบครอง พระยาลิไทต้องยินยอม และต้องส่งบรรณาการเป็นอันมาก ในเวลาต่อมาพระยาลิไทได้ขอเมืองพิษณุโลกคืนจากสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ได้คืนเมืองพิษณุโลกให้กับพระยาลิไท ส่วนหลวงพะงั่วซึ่งเคยครองเมืองพิษณุโลกกลับไปครองเมืองสุพรรณบุรีตามเดิม พระยาลิไทครองเมืองพิษณุโลก ทรงตั้งพระมหาเทวีซึ่งเป็นขนิษฐาครองเมืองสุโขทัย และทรงตั้ง ติปัญญาอำมาตย์(หรือเรียกชื่ออีกอย่างหนึ่งว่าพระยาญาณดิส) ครองเมืองกำแพงเพชร หนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ หน้า 116-117 ในช่วงครองเมืองกำแพงเพชรอยู่นั้น พระยาญาณดิสได้ขอพระแก้วมรกตจากสมเด็จพระบรมราชาธิราช(หลวงพะงั่ว)ซึ่งครองกรุงศรีอยุธยามาไว้ที่เมืองกำแพงเพชร ในหนังสือประชุมพงศาวดาร ฉบับกาญจนาภิเษกเล่ม 7 หน้า 576-579 มีข้อความที่สรุปได้ว่า จุลศักราช 762 (พ.ศ.1943) เจ้าแสนเมืองมาได้ทำพิธีปราบดาภิเษกขึ้นเป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่ หลังจากนั้นประมาณสองเดือนเศษ ท้าวมหาพรหมเจ้าเมืองเชียงรายซึ่งเคยหลบหนีมาพึ่งพาพระยาญาณดิสที่เมืองกำแพงเพชร ไปนำทหารแปดหมื่นจากเชียงใหม่มาล้อมเมืองกำแพงเพชรไว้ ให้พระสุคันธเถระเข้าเจรจาขอให้พระยาญาณดิสยอมถวายพระแก้วมรกตให้กับท้าวมหาพรหม พระยาญาณดิสเห็นจะสู้รบไม่ได้ จึงแต่งบรรณาการเครื่องช้างอย่างดีส่งไปถวายแด่ท้าวมหาพรหม ขอเป็นทางราชไมตรีและยอมถวายพระแก้วมรกตให้ แต่ขอให้ท้าวมหาพรหมถอยทัพไปก่อนจึงจะส่งพระแก้วมรกตตามไปถวายภายหลัง เพราะว่ากองทัพจากกรุงศรีอยุทธยา(สมเด็จพระรามราชาธิราช กษัตริย์ องค์ที่ 5 แห่งกรุงศรีอยุธยา) ยกทัพมาถึงปากน้ำโพแล้ว ถ้าเสด็จมาถึงก็จะไม่ได้พระแก้วมรกตไป ท้าวมหาพรหมจึงถอยทัพไปตั้ง ณ เมืองตาก ครั้นครบ ๗ วัน พระเจ้าญาณดิสก็เชิญพระแก้วมรกตลงเรือ มอบให้พระสุคันธเถระไปถวายท้าวมหาพรหม จากหลักฐานที่นำมาเสนอตั้งแต่แรกนั้นสามารถที่จะสรุปได้ว่า ติปัญญาอำมาตย์ หรือ พระยาญาณดิส นั้น ได้เป็นเจ้าเมืองกำแพงเพชร ตั้งแต่ปลายสมัยพระยาลิไทจนถึงสมัยสมเด็จพระรามราชาธิราช (กษัตริย์องค์ที่ 5 แห่งกรุงศรีอยุธยา) ซึ่งต้องยอมถวายพระแก้วมรกตให้กับท้าวมหาพรหมเจ้าเมืองเชียงรายเมื่อ พ.ศ. 1943 นับระยะเวลาที่ขึ้นครองราชย์ไม่น้อยกว่า 30 ปี ในหนังสือ วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดสุพรรณบุรี หน้า 193-194 ได้กล่าวถึงพระราชประวัติของสมเด็จพระนครอินทราธิราช (พระเจ้านครอินทร์ กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งกรุงศรีอยุธยา) มีข้อความที่พอสรุปได้ว่า หลักฐานตามตำนานและจารึก ก่อนที่สมเด็จพระนครอินทร์(พระเจ้านครอินทร์)จะได้ครองเมืองสุวรรณภูมิแทนราชบิดานั้นเคยเสด็จไปครองเมืองเหนือคือ ทำพิธีราชาภิเษกที่เมืองกำแพงเพชร เมื่อประมาณ พ.ศ. 1938 ได้ร่วมตรากฎหมายสลักไว้บนแผ่นศิลา แล้วปักไว้ที่เมืองสุโขทัย เพื่อให้มีบังคับใช้ร่วมกัน นอกจากนี้แล้วจากจดหมายเหตุจีน ระบุว่าเจ้าเมืองสุพรรณภูมิติดต่อค้าขายกับจีนมีสัมพันธ์ใกล้ชิดส่งฑูตไปเมืองจีนบ่อยๆ พระราชบิดาเมื่อครั้งครองเมืองสุพรรณบุรี ส่งพระเจ้านครอินทร์ ทายาท ไปถวายบรรณาการแด่จักรพรรดิจีน เมื่อ พ.ศ. 1920 ได้ประทับอยู่ในราชสำนักจีนระยะหนึ่ง และเป็นเจ้านายไทยองค์เดียวเท่านั้นที่เคยเสด็จไปเมืองจีน การที่พระเจ้านครอินทร์ได้ทำพิธีราชาภิเษกเมืองกำเพชรและตรากฎหมายออกไปประกาศใช้ที่เมืองสุโขทัยนั้น ก็คือศิลาจารึกหลักที่ 38 หรือจารึกกฏหมายลักษณะโจร นั่นเอง แต่จารึกหลักที่ 38 นั้น จากหนังสือ รายงานสัมมนาทางวิชาการ เรื่องกำแพงเพชร : อดีต ปัจจุบัน และอนาดต หน้า 97 อธิบายว่า ดร.ประเสริฐ ณ นคร ได้คำนวณการสร้างจารึกนั้นว่าสร้างเมื่อ พ.ศ. 1940 และผู้ที่ทำพิธีราชาภิเษกเมืองกำแพงเพชรครั้งนั้น มีพระนามว่า ?จักรพรรดิราช? ซึ่งก็ย่อมที่จะหมายถึง ?พระเจ้านครอินทร์? การที่พระเจ้านครอินทร์ หรือ จักรพรรดิราช ราชาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นเจ้าเมืองกำแพงเพชร แล้วตรากฎหมายออกไปประกาศใช้ที่เมืองสุโขทัย เมื่อ พ.ศ. 1940 นั้น เป็นช่วงที่พระเจ้าญาณดิสเป็นเจ้าเมืองกำแพงเพชรอยู่ (ขึ้นครองราชย์เมืองกำแพงเพชร ตั้งแต่ปลายสมัยพระยาลิไทย ไปจนหลังจากเสียพระแก้วมรกตให้แก่ท้าวมหาพรหม ในปี พ.ศ. 1943 ซึ่งไม่น้อยกว่า 30 ปี) จึงเป็นไปไม่ได้เมื่อพระเจ้าญาณดิสเป็นเจ้าเมืองกำแพงเพชรอยู่แล้วจะยินยอมให้ผู้อื่นมาเป็นเจ้าเมืองกำแพงเพชรร่วมกันหรือแบ่งกันครอบครอง เพราฉะนั้น พระเจ้าญาณดิส หรือ ติปัญญาอำมาตย์ หรือ พระเจ้านครอินทร์ หรือ จักรพรรดิราช ก็คือคนคนเดียวกัน ซึ่งเป็นเจ้าเมืองกำแพงเพชร ไม่น้อยกว่า 30 ปี เป็นผู้นำพระแก้วมรกตมาให้ชาวกำแพงเพชรไว้กราบไหว้ เป็นผู้ตรากฎหมายแล้วจารึกลงในศิลาไปติดตั้งประกาศใช้ที่กลางกรุงสุโขทัย เป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งกรุงศรีอยุธยา และเป็นชาวสยามคนแรกที่ไปเมืองจีน จึงมีตำนานว่า ?พระร่วงไปเมืองจีน? ดังนั้น ชาวกำแพงเพชรจึงมีสิทธิ์ที่จะพูดได้ว่า ?เจ้าเมืองกำแพงเพชรไปเมืองจีน? ใช่หรือไม่ อ้างอิง คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี. ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนา ภิเษก เล่ม 7. กรุงเทพมหานคร : กรมศิลปากร, 2545. คณะกรรมการดำเนินการจัดทำหนังสือวัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดสุพรรณบุรี, วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัด สุพรรณบุรี .กรมศิลปากร,2544 วิทยาลัยครูกำแพงเพชร. รายงานการสัมมนาทางวิชาการ เรื่องกำแพงเพชร : อดีต ปัจจุบัน และอนาคต. วิทยาลัยครูกำแพงเพชร, 2534. แสง มนวิทูร, ร.ต.ท. ชินกาลมาลีปกรณ์.(พิมพ์อนุสรณ์นายกี นิมมานเหมินทร์) มิตรนราการพิมพ์, 2510. |