หัวข้อ: ปริศนา ชื่อเมืองกำแพงเพชร สืบค้นโดยอาจารย์รุ่งเรือง สอนชู เริ่มหัวข้อโดย: apairach ที่ ตุลาคม 19, 2011, 06:48:17 pm เมืองกำแพงเพชร มีชื่อหลายชื่อ ตามตำนานเชียงแสน หน้า 107 และพงศาวดารโยนก หน้า 490-491 ในหนังสือประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม 7 มีข้อความที่กล่าวตรงกันว่า พระเจ้าไชยศิริเชียงแสนได้ทรงสถาปนา?เมืองกำแพงเพชร? เมื่อวันอังคาร แรม 4 ค่ำ เดือน เก้า ปีมะเส็ง พ.ศ. 1547 ในคราวที่พระเจ้าไชยศิรินำหมู่บ้านทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิงคือฝั่งนครชุมและฝั่งชากังราวมาสถาปนาขึ้นเป็นเมืองกำแพงเพชรนั้น ยังไม่มีการสร้างคูเมือง หรือกำแพงเมืองแต่อย่างใด แต่ได้มีการสร้างเมืองกำแพงเพชรขึ้นในคราวหลัง มีหลักฐานระบุไว้ว่าสร้างเมืองกำแพงเพชรครั้งแรกที่ฝั่งนครชุม เมื่อประมาณ พ.ศ. 1800-1900 และมีหลักฐานระบุว่าสร้างเมืองกำแพงเพชรครั้งที่ 2 ฝั่งชากังราว เมื่อประมาณ ศตวรรษที่ 20-21 สืบค้นโดยอาจารย์รุ่งเรือง สอนชู จากเอกสารต่างๆ ที่ได้สืบค้น พบว่า เมืองกำแพงเพชรนั้น มีชื่อเรียกเป็นอย่างอื่นได้หลายชื่อ ได้แก่ 1. เมืองนครชุม 2. เมืองชากังราว 3. เมืองพิจิตรปราการ 4. เมืองวิเชียรปราการ 5. เมืองเชลียง 6. เมืองบลางพล หรือ บางพล หรือปางพล ในข้อที่ 1 และ 2 เรียกเมืองกำแพงเพชรว่า เมืองนครชุมและเมืองชากังราว นั้น ความเห็นของผู้เขียนเชื่อว่า การสร้างเมืองกำแพงเพชรครั้งแรกสร้างที่ฝั่งนครชุม จึงเรียกชื่อเมืองตามชื่อสถานที่ใช้สร้างว่า ?เมืองนครชุม? และเช่นเดียวกัน สร้างเมืองกำแพงเพชรครั้งที่ 2 ที่ฝั่งชากังราว ก็เรียกชื่อเมืองกำแพงเพชรครั้งนั้นว่า ?ชากังราว? ในข้อที่ 3 เมืองพิจิตปราการ และ 4 เมืองวิเชียรปราการ สืบค้นได้ในหนังสือคำให้การชาวกรุงเก่า หน้า 11 ว่าหมายถึงเมืองกำแพงเพชร ตามข้อความที่ได้คัดลอกดังนี้ ?เชื้อวงศ์ของพระองค์ได้ครองราชย์สมบัติสืบต่อมารวม 15 พระองค์ อนึ่งโอฆบุรี เมืองพิไชย เมืองพิจิตรปราการ (วิเชียรปราการ คือกำแพงเพชร) เมืองทมันไป้ เมืองทั้ง 4 ที่กล่าวมานี้ เชื้อพระวงศ์ของพระเจ้าปทุมสุริยวงศ์เป็นผู้สร้างขึ้นไว้? ในหนังสือเล่มเดียวกัน หน้าที่ 200-201 ได้อธิบายถึงชื่อหัวเมืองฝ่ายเหนือของไทยรวมทั้งเมืองกำแพงเพชร ตามข้อความที่คัดลอก ดังนี้ 97. เมืองพิไชยนคร (เมืองพิไชย) 98. เมืองพิจิตรปราการ (เมืองวิเชียรปราการ คือเมืองกำแพงเพชร) 99. เมืองสิงห์บุรี (ตรง) ข้อที่ 5 เรียกเมืองกำแพงเพชรว่า เชลียง สืบค้นได้ จากหนังสือ 2 เล่ม ได้แก่ 1.จากเรื่อง จดหมายเหตุโหร ในหนังสือประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม 1 หน้า 11 ได้กล่าวถึงวันประสูติของพระเจ้าพรหมผู้ซึ่งเคยไล่ปราบขอมมาถึงเมืองกำแพงเพชร โดยมีข้อความว่า ?ปีมะเส็ง จ.ศ. 283 วันพุธ แรม 6 ค่ำ เดือนแปด เวลารุ่งเช้า เกิดพระเจ้าพรหมราชกษัตริยิ์ที่ 41 เชียงแสน ซึ่งปราบขอมพ่ายแพ้ลงมาถึงแดนชะเลียง? คำว่า ?ชะเลียง? มีเชิงอรรถอธิบายว่าหมายถึง กำแพงเพชร ดังนี้ ?ต้นฉบับที่ใช้ตรวจสอบใช้ว่า กำแพงเพ็ชร์? 2. พงศาวดารโยนก เรื่อง ว่าด้วยติโลกราชทำศึกกับสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ในหนังสือประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม 7 หน้า 595 มีเรื่องราวที่สรุปได้ว่า พระยาอุทิศเจียง เจ้าเมืองพิษณุโลกยอมเป็นเมืองขึ้นต่อเจ้าเมืองเชียงใหม่ จึงทำให้พระยาติโลกราชเจ้าเมืองเชียงใหม่คิดที่จะแย่งชิงเอาอาณาจักรสุโขทัยทั้งหมดจากกรุงศรีอยุธยา จึงได้ยกทับหลวงไปเมืองพิษณุโลกและออกโจมตียึดเมืองอื่นๆ และได้ยกทัพเข้าสู่เมืองกำแพงเพชร แต่เรียกชื่อเมืองกำแพงเพชรว่า เมืองเชลียง ดังข้อความทีคัดลอกมาเป็นบางส่วน ดังนี้ ?พระยาติโลกราชเจ้านครพิงค์เชียงใหม่ เสด็จยกทัพหลวงไปเมืองสองแคว เพื่อจะป้องกันเอาเมืองฝ่ายเหนือแห่งพระนครศรีอยุธยา จึงเสด็จไปตั้งทัพอยู่ ณ เมืองทุ่งยั้ง มีรี้พลทัพหลวงสี่หมื่น ทัพหัวเมืองหมื่นหนึ่ง รวมเป็นห้าหมื่น แล้วยกไปตั้งอยู่ข้างแม่น้ำกรังในเมืองสองแคว 20 วัน จึงยกไปตีปากยม ครั้นได้ปากยมแล้ว จึงให้หมื่นหารนครยกไปตีเมืองเชลียงไปถึงตำบลน้ำรึม เพลาค่ำมีมหาเถรรูปหนึ่งมาบอกว่า ที่นี้ไม่ควรยั้งควรนอน ชาวเชลียงเขามีมากนักจักมากระทำร้าย หมื่นยี่ซาตอบว่าเจ้ากูอย่าร้อนใจ ตูข้าหากหลายนักมักมิเป็นไร ก็พากันพักแรม ณ ที่นั้น ครั้นเพลาเที่ยงคืนชาวเชลียงยกออกมาปล้นทัพ หมื่นนคร เสียชาวนครไปมากนัก (นครนี้คือนครลำปาง)? ตำบลน้ำรึม มีเชิงอรรถอธิบายว่า ?บ้านน้ำรึมอยู่ใกล้เมืองกำแพงเพชรสัก 200 เส้น? ดังนั้นชาวเมืองเชลียง ย่อมหมายถึงเมืองกำแพงเพชร ถ้าเป็นเชลียง(ศรีสัชนาลัย) ระยะทางไกลเกินไปที่ยกทัพมาตีทหารของพระยาติโลกราชที่ตำบลน้ำรึมได้ ข้อที่ 6 เรียกเมืองกำแพงเพชร ว่า บลางพล หรือ บางพล หรือ ปางพล สืบค้นได้จากหนังสือ 2 เล่มได้แก่ 1. เรื่องหริภุญไชย ว่าด้วยระยะทางนางจามเทวี จากพงศาวดารโยนก ในหนังสือ ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม 1 หน้า 500 เป็นเรื่องที่กล่าวถึงการเดินทางของพระนางจามเทวีจากเมืองลพบุรีขึ้นไปเมืองลำพูน ซึ่งเคยพักที่เมืองกำแพงเพชร แต่เรียกกำแพงเพชรว่า ?บางพล?ดังข้อความที่คัดลอกมาเป็นบางส่วนดังนี้ ?ครั้นยกจากเมืองบางประบาง ไปประทับพักพล ณ เมืองคันธิกะ ยกจากเมืองคันธิกะไปประทับพักพล ณ เมืองบุรัฐะ ยกจากเมืองบุรัฐะขึ้นไปประทับ ณ เมืองบุราณะ ยกจากเมืองบุราณะขึ้นไปประทับเมืองเทพบุรี (บ้านโคน) ยกจากเมืองเทพบุรีไปประทับเมืองบางพล(กำแพงเพชร) ยกจากเมืองบางพลไปประทับเมืองรากเสยด (ที่เกาะรากเสียด)? 2. จากหนังสือตำนานมูลศาสนา เชียงใหม่ เชียงตุง ในหน้า 13 ซึ่ง ศ.ดร. ประเสริฐ ณ นคร และ นายปวงคำ ตุ้ยเขียว ผู้ปริวัตร ได้กล่าวสรุปชื่อเมืองบลางพล หรือ ปางพล ว่าหมายถึงเมืองกำแพงเพชร ดังนี้ ?เมืองบลางพล คือเมืองกำแพงเพชร (สด.29 ปด.59) ฉบับป่าแดงเชียงตุง พูดถึงพระสุริยธิกรณเป็นประธานของพระเมืองปางพล ส่วนฉบับสวนดอกว่าท้าวแสนสอยดาวแห่งกำแพงเพชรมอบเรื่องศาสนาไว้กับพระมหาสุริยาธิกรณ แสดงว่ากำแพงเพชรคือ บลางพล อ้างอิง กรมศิลปากร, คำให้การชาวกรุงเก่า คำให้การขุนหลวงหาวัด และ พระราชพงสาวดารกรุงเก่า ฉบับ หลวงประเสริฐอักษรนิติ์. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์คลังวิทยา,2515. คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี. ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนา ภิเษก เล่ม 1. กรุงเทพมหานคร : กรมศิลปากร, 2542. คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี. ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนา ภิเษก เล่ม 7. กรุงเทพมหานคร : กรมศิลปากร, 2545. สมาคมประวัติศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี. ตำนานมูลศาสนาเชียงใหม่และเชียงตุง. กรุงเทพมหานคร: ศักดิ์โสภาการพิมพ์,2537. |