หัวข้อ: ที่มาและความหมายของเมือง ?กำแพงเพชร? สืบค้นโดยอาจารย์ รุ่งเรือง สอนชู เริ่มหัวข้อโดย: apairach ที่ มกราคม 19, 2012, 02:32:13 pm ที่มาและความหมายของเมือง ?กำแพงเพชร?
สืบค้นโดยอาจารย์ รุ่งเรือง สอนชู การตั้งชื่อสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชื่อคน ชื่อสัตว์ ชื่อสถาน หรืออื่นๆ ก็มักจะมีสาเหตุของการตั้งชื่อของสิ่งนั้นๆ เด็กเมื่อเกิดมามีผิวดำ รูปร่างอ้วน ก็ตั้งชื่อเล่นว่าหมี เพราะคล้ายหมี ลูกแมวมีผิวลายคล้ายสัตว์อื่น ก็ตั้งชื่อเป็นสัตว์อื่น อาจเรียกชื่อ เสือ หรือ สิงโต ชื่อบ้านเทพนคร ปัจจุบันมีพื้นที่อยู่ที่หมู่ 4 และ 15 ตำบลเทพนคร อำเภอเมืองกำแพงเพชร เดิมชาวบ้านเรียกว่า บ้านปางหรั่ง หรือปางฝรั่งเพราะนายเค จี แก็ตเนอร์ ซึ่งเป็นชาวอังกฤษได้ย้ายครอบครัวพร้อมทั้งคนงานมาทำนาบริเวณนี้ ประมาณ 30 ปี แต่หลังจากนายเค จี แก็ตเนอร์ ได้เลิกกิจการและขายที่นาพร้อมทั้งอาคารและเครื่องจักรกลซึ่งนำมาจากประเทศอังกฤษคืนให้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บ้านปางหรั่ง หรือปางฝรั่ง ค่อย ๆหายไป แล้วเรียกชื่อใหม่ตามชื่อเมืองโบราณคือเมืองเทพนคร ว่า บ้านเทพนคร เช่นเดียวกับจังหวัดของเราย่อมจะต้องมีเรื่องราวหรือที่มาจึงเรียกว่า ?กำแพงเพชร? จากการสืบค้น พบข้อความในหนังสือประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม 7 เรื่อง ?ตำนานเมืองเชียงแสน? เรื่อง ?พงศาวดารโยนก? และในหนังสือ ?ตำนานสิงหนวติกุมาร? มีเรื่องราวตรงกันว่า เมื่อจุลศักราช 298 หรือพุทธศักราช 1479 พระเจ้าพรหมได้ยึดเมืองโยนกคืนจากขอมได้แล้ว ไล่ปราบขอมตั้งแต่เมืองโยนกล่องลงมาจนถึงเมืองกำแพงเพชร ตั่งค่ายพักค้างคืนที่เมืองแปบ ในคืนนั้นพระเจ้าพรหมได้ทรงนิมิตไปว่า พระอินทร์ได้เล็งดูรู้เหตุการณ์ทั้งหมด ก็รำพึง พระเจ้าพรหมได้กำจัดขอมดำไปถึงที่ใดก็ฆ่าเสีย ถ้าปล่อยไว้ก็จะตายกันทั้งหมด จึงคิดที่จะช่วยป้องกันชีวิตของพวกขอมไว้ โดยมอบให้เทวบุตรมาเนรมิตกำแพงหินขวางกั้นเจ้าพรหมไว้ เพื่อไม่ให้ฆ่าขอมอีกต่อไป จากการนิมิตนั้น พระเจ้าพรหมจึงทรงหยุดไล่ฆ่าขอมและรี้พลทหารกลับเมืองโยนก ให้พระราชบิดาครองเมืองโยนกตามเดิม ส่วนพระเจ้าพรหมนั้นได้ทรงสร้างเมืองขึ้นใหม่ คือเมืองไชยปราการ(ปัจจุบันเป็นเมืองร้างอยู่ระหว่างเมืองเชียงราย-แม่น้ำโขง) เพื่อป้องกันการรุกรานจากขอมไปตีเมืองโยนกอีก เมื่อสิ้นพระเจ้าพรหมแล้ว พระเจ้าไชยศิริซึ่งเป็นโอรสได้ทรงขึ้นครองราชย์ต่อ พระเจ้าไชยศิริ ครองราชย์ได้ 7 ปี เมื่อ่จุลศักราช 366 (พ.ศ. 1547 ) ถูกกองทัพพม่าจากเมืองสุรรมวดี(เมืองสเทิม) เข้ามารุกราน ไม่สามารถจะป้องกันได้ จึงตัดสินพระทัยเผาเมืองไชยปราการทั้งหมด แล้วนำประชาราษฎร์พร้อมหมู่ทหารหนีมาถึงบริเวณที่พระเจ้าพรหมทรงตั้งค่ายค้างคืนเมือคราวไล่ฆ่าขอม(เมืองกำแพงเพชรในปัจจุบันนี้) เมื่อครบ 3 วัน ถึง ณ วันอังคาร เดือน ๙ แรม ๔ ค่ำ ได้สถาปนาสถานที่แห่งนี้ขึ้นเป็นเมือง ?กำแพงเพชร? เพื่อให้รู้ถึงที่มาและความหมายของการตั้งชื่อเมือง ?กำแพงเพชร? จึงขอคัดลอกข้อความเป็นบางส่วนดังนี้ เรื่อง ?ตำนานเมืองเชียงแสน? ในหนังสือประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม 7 หน้า 106-107 มีข้อความว่า ? ส่วนว่าพระองค์ชัยสิริเจ้าก็ป้องเอาคนครัวลูกหนีไปไปหาเวียงโยนกนครชัยบุรีศรีเชียงแสนหลวงนั้น ก็ไปบ่ได้ เหตุว่าฝนตกแม่น้ำกุกนทีนั้นนองนักก็พากันย้ายหนีไปทางตะวันออกล่องใต้ไปทางผาหมื่นผาแสนแล้วล่องไปทางตะวันออกเขาชุมพู คือว่าดอยขวัญนั้น ก็อยู่บ่ได้กลัวข้าเสิกตามทัน ก็เอากันหนีไปทั้งวันออกไจ้ ๆ นานได้เดือนหนึ่ง ก็ล่วงล้ำที่พระยาพรหมกุมารตนพ่อแห่งท่านไล่ขรอมไปเทิกนั้นวันหนึ่งแล เมื่อนั้นก็ร้อนแผวที่นั่งแห่งพระยาอินก็ลงมาเนรมิตตนเป็นผ้าขาวตน ๑ แล้วก็มายืนอยู่ที่ใกล้ ส่องหน้าช้างที่นั่งท่าน แล้วก็กล่าวว่า ดูรามหาราช ท่านจุ่งตั้งเมืองอยู่ถานที่นี้เทอะ เป็นชัยภูมิดีบ่มีข้าเสิกสัตรูสังจักมาบีบเบียฬสักอันแลว่าอั้น แล้วก็อนทรายกลับหายไปหั้นแล เมื่อนั้นท่านก็ยั้งหมู่อยู่ที่นั้น ๓ วันนั้นแล้ว เดือน ๙ แรม ๔ ค่ำ ท่านก็สร้างเวียงอยู่ที่นั่น แล้วก็เรียกชื่อว่าเมืองกำแพงเพกว่าอั้น เหตุเอานิมิตพระยาอินเนรมิตกำแพงหินเกิ๊ดพรหมกุมารพ่อท่านเมื่อไล่กรอมนั้นแล มีคนแสนครัวก็ตั้งบ้านอยู่ชอมริมน้ำแม่ระมิงตราบแถวสบแล ลวดเบิกนามกรว่า พระองค์ชัยสิริเชียงแสนว่าอั้นแล? เรื่อง ?พงศาวดารโยนก? ในหนังสือประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม 7 หน้า 490-491 มีข้อความว่า ?ลุศักราช ๓๖๖ ปีมะเส็ง ฉสก วันพฤหัสบดี เดือน ๘ แรม ๑ ค่ำ พระเจ้าไชยศิริราชก็ยกรี้พลครอบครัวราษฎรอพยพออกจากนครไชยปราการ ครั้นจะขึ้นไปทางเมืองไชยบุรีเชียงแสน ทางต้องข้ามแม่น้ำกก เป็นฤดูฝนน้ำหลากข้ามยาก จีงได้ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ทางผาหมื่นผาแสน แล้วไปถึงเขาชมภูคือดอยด้วน ซึ่งภายหลังเป็นที่ตั้งเมืองพะเยา พักพลอยู่ดอยด้วนนั้นพอหาอิดโรยแล้วก็ยกล่วงมาทางทิศใต้ เดินทางพักผ่อนรอนแรมมาได้ ๑ เดือนก็บรรลุถึงแดนเฉลี่ยง ซึ่งพระเจ้าพรหมราชพระราชบิดาของพระองค์ได้ปราบขอมลงไปถึงถิ่นที่นั้นแต่กาลก่อน จึงพักพลอยู่ ณ ที่ใกล้เมืองร้างตรงกับฟากฝั่งกับเมืองกำแพงเพชร(คือเมืองแปบ) มีปะขาวคนหนึ่งมาชี้ที่ให้ตั้งพระนครว่า ขอมหาราชเจ้าจงตั้งพระนคร ณ สถานที่นี้เถิดเป็นชัยภูมิดี บ่มีข้าศึกศัตรูจะมาเบียดเบียนได้ แล้วปะขาวนั้นก็อันตรธานหายไปเฉพาะหน้าพระที่นั่ง พระเจ้าไชยศิริราชก็แจ้งประจักษ์ในพระทัยว่า สมเด็จอมรินทราธิราชเสด็จชี้ที่ให้ตั้งพระนคร มีพระทัยโสมนัสปรีดายิ่งนัก จึงให้ตั้งชมรมพักพลอยู่ ณ ที่นั้นถ้วน ๓ วัน ถึง ณ วันอังคาร เดือน ๙ แรม ๔ ค่ำ จึงให้ฝังหลักเมืองตั้งพระนคร ล้อมระเนียดค่ายคูประตูหอรบครบบริบูรณ์ทั้งพระราชนิเวศน์มนเทียรสถาน ครั้นสำเร็จจึงเสด็จขึ้นครองนครนั้นขนานนามว่าเมืองกำแพงเพ็ชร เหตุเอานิมิตที่สมเด็จอมรินทราธิราชให้วิษณุกรรมเนรมิตกำแพงศิลากั้นกันแดน เมือครั้งพระเจ้าพรหมราชไล่ปราบขอมลงมานั้น? ในหนังสือ ?ตำนานสิงหนวัติกุมาร? หน้า 90-93 มีข้อความว่า ? ศักราชได้ ๓๖๖ ตัวปีเมิงไส้ ศาสนาพระพุทธเจ้าล่วงไปพ้นเต็มบริบูรณ์นั้น เดือน ๙ แรมค่ำ ๑ วันพฤหัสบดี ท่านก็มีอาชญาให้ไปปองเอาตนครัวหนีไปนั้นแล้ว กาลนั้นส่วนว่าพระยาสุธรรมวดีก็มาได้เวียงเปล่าหามีผู้คนไม่ เห็นแต่เท่าไฟไหม้ข้าวและเรือนนั้น ก็บ่อาจจักตามไปได้ ก็พารี้พลโยธาหนีกลับคืน เมื่อหาบ้านเมืองนั้นแล ส่วนพรองค์ไชยสิริเจ้าก็ปองเอาคนครัวหนีไป จักหนีไปหาเวียงโยนกนครราชธานีไชยบุรีศรีช้างแสนหลวงนั้นก็ไปบ่ได้ เหตุว่าฝนตกน้ำแม่กุกกุฎนทีนองมากนัก ก็พากันหนีไปทางตะวันออก ล่องใต้ไปทางเมืองผาหมื่นผาแสน แล้วล่องไปทางตะวันออกเข้าชมพู คือว่าดอยด้วนนั้นอยู่บ่ได้ กลัวข้าศึกจะติดตามมาก็พากันหนีไปทางตะวันออกนานได้เดือนหนึ่ง ก็ไปถีงที่พระยาพรหมราชตนพ่อแห่งท่านไล่ขอมไปถึงที่นั้น ครั้งนั้นก็ร้อนถึงที่นั่งพระยาอินทร์ ครั้นพระยาอินทร์ได้ทราบเหตุการณ์ดังนั้น ก็ลงมาเนรมิตเป็นตาผ้าขาวตนหนึ่ง แล้วก็มาอยู่ใกล้ช้างที่นั่ง กล่าว่า ดูกรมหาราช ท่านจงตั้งเมืองอยู่ฐานะที่นี้เทอญ เป็นชัยภูมดี บ่มีข้าศึกสัตรูจักมาเบียดเบียนท่านแด่ ว่าดังนั้นแล้ว พระยาอินทร์ก็กลับหายไปในกาลนั้น พระองค์ก็ยับยั้งหมู่บริวารอยู่ที่นั้นสามวัน แล้วเดือน ๙ แรม ๔ ค่ำ วันอังคารท่านก็สร้างเวียงอยู่ที่นั้น แล้วเรียกชื่อว่า เมืองกำแพงเพ็ชร์นั้นแล เหตุเอานิมิตต์พระยาอินทร์กำแพงหินกั้นพรหมกุมารผู้เป็นราชบิดาของท่านครั้งเมื่อไล่พระยาขอมดำไปนั้นแล มีคนแสนครัว ก็ตั้งอยู่ริมน้ำแม่ระมิงตราบแถวสบแลก็เปลี่ยนนามว่า พระองค์ไชยสิริเชียงแสนนั้นแล? จากข้อความที่ได้คัดลอกทั้ง 3 เรืองนั้น ทำให้รู้ที่มาของการตั้งชื่อเมือง ?กำแพงเพชร? ว่า พระเจ้าไชยศิริทรงนำนิมิต(ความฝัน)ของพระเจ้าพรหมมาตั้งเป็นชื่อเมือง ?กำแพงเพชร? เป็นคำประสมของคำสองคำ คือ?กำแพง? กับ ?เพชร? ตามพจนานุกรมนั้น ?กำแพง? เป็นคำนามหมายถึง ?เครื่องกั้น? หรือ ?เครื่องล้อม? คำว่า ?เพชร? เป็นคำนาม เป็นชื่อแก้วที่แข็งที่สุด ส่วนในภาษาบาลี และภาษาสันสกฤต หมายถึง ?อาวุธของพระอินทร์? ดังนั้นเมือง ?กำแพงเพชร? จึงมีความหมายว่า ?เป็นเมืองที่ถูกพระอินทร์สร้างกำแพงล้อมไว้? และอาจจะหมายถึง ?เมืองที่มีกำแพงแข็งแกร่งดังเพชร? เพราะแม้แต่พระเจ้าพรหมก็ยังไม่สามารถที่จะผ่านกำแพงออกไปฆ่าขอมได้ อ้างอิง คณะกรมการจัดพิมพ์เอกสารทางประวัติศาสตร์, ตำนานสิงหนวัติกุมาร ฉบับสอบค้นของ มานิต วัลลิโภดม. สำนักนายกรัฐมนตรี: 1516 คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี, ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนา ภิเษก เล่ม 1. กรุงเทพมหานคร : กรมศิลปากร, 2541 |