จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช

หมวดหมู่ทั่วไป => จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร => ข้อความที่เริ่มโดย: apairach ที่ กรกฎาคม 16, 2014, 07:05:52 am



หัวข้อ: สุนทรพจน์ สภากาชาดไทย
เริ่มหัวข้อโดย: apairach ที่ กรกฎาคม 16, 2014, 07:05:52 am
สภากาชาดไทยช่วยคลายทุกข์...สร้างสุขสู่สังคมไทย

บรรเทาทุกข์  บำรุงสุข  บำบัดโรค กำจัดภัย  เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน  คำกล่าวข้างต้นคือคติทัศน์ของสภากาขาดไทย 
   สภากาชาดไทยเป็นองค์กรสารณกุศลระดับชาติ  เป็นที่พึ่งของประชาชน  และดำเนินการเพื่อมนุษยชนตามหลักการกาชาดสากล  เป็นองค์กรที่มีลักษณะเป็นพลวัตและนวัตกรรม  มีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวไปข้าวหน้าสู่ความเป็นเลิศและเป็นไปตามคติทัศน์ของสภากาชาดไทย
   ต้นไม้ 1 ต้น  ย่อมมีส่วนประกอบต่างๆมากมาย  สภากาชาดไทยก็ย่อมมีบทบาทหน้าที่ 
ประหนึ่งต้นไม้ ใหญ่ที่ให้ร่มเงาแก่ประชาชน  คลายความทุกข์สร้างความสุขสู่สังคมไทย  มีกิ่งก้านทอดยาวประหนึ่งเหล่ากาชาดจังหวัด  และแตกแขนงกลายเป็นกิ่งกาชาดอำเภอ  ทุกกิ่งก้านสามารถดูแลประชาชนได้เป็นอย่างดี  เมื่อถึงเวลาต้นไม้ต้นนี้ก็ผลิใบเขียวชอุ่มสร้างร่มเงาที่ใหญ่ขึ้นช่วยบรรเทาทุกข์ภัยให้หมดไปจากสังคมไทย  หล่อหลอมความสุขจนออกดอกที่แสนงดงาม ดอกไม้สามารถช่วยบำรุงสุขให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี  ส่งกลิ่นหอมที่แสนเย้ายวน  นำพาหัวใจให้มีสุขได้ชั่วนิรันดร์  เมื่อออกดอกบานสะพรั่ง  ย่อมได้ผลที่งอกงามตามมา  ผลของต้นไม้ต้นนี้พิเศษยิ่งนัก  เพราะสามารถบำบัดโรค  และกำจัดภัยที่ทุกข์ทรมานให้หายไปได้อย่างน่าอัศจรรย์  ต้นไม้ต้นนี้ไม่มีวันร่วงโรยอย่างแน่นอน  และยังแผ่ร่มเงาไปทั่วอาณาบริเวณสร้างสุขเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างมหาศาล  อันเนื่องด้วยลำต้นที่แข็งแกร่งผนวกกับรากที่ยึดเหนี่ยวผืนดินสุดแรงกล้าและกิ่งก้านที่แตกแขนงรวมพลังกันอย่างเหนียวแน่น  จึงไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถมาทำลายต้นไม้ต้นนี้ให้ล้มลงได้
   ย้อนไปนับตั้งแต่ครั้งอดีตกาลจากเหตุการณ์กรณีพิพาทระหว่างประเทศสยาม  กับประเทศฝรั่งเศส  เรื่องดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง  เมื่อปี  2436  ซึ่งส่งผลให้ทหารบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก  แต่ยังไม่มีองค์กรการกุศลใดที่ทำหน้าที่หลักในหารช่วยเหลือพยาบาลและบรรเทาทุกข์  ท่านผู้หญิงเปลี่ยน  ภาสกรวงษ์  จึงได้ชักชวนสตรีอาสามสมัคร  ตั้งสภา  อุณาโลมแดงขึ้น  ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  เมื่อวันที่  26  เมษายน  2436  สภาอุณาโลมแดงได้ทำหน้าที่คลายทุกข์  สร้างสุขสู่สังคมไทยเรื่อยมาและกลายเป็นสภากาชาดไทยในปัจจุบัน
ตึกสูงเทียมฟ้ายังต้องอาศัยอิฐก้อนเล็กๆ หลายล้านก้อนหลอมรวมกัน  สภากาชาดไทยจะแข็งแกร่งได้ก็ต้องอาศัยบุคลากรที่มีคุณภาพและมุ่งทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง  ?มีเพียงชีวิตที่ทำเพื่อคนอื่นเท่านั้น  ที่ควรค่าแก่การมีชีวิต?
ครั้งหนึ่งทางสภากาชาดไทยได้ประกาศหาบุคคลที่มีกรุ๊ปเลือด  AB ซึ่งผมเล็งเห็นถึงความสำคัญ  จึงได้เข้าร่วมบริจาคโลหิต   จนทำให้หญิงผู้นั้นรอดชีวิต  ภายหลังผมจึงได้ทราบว่าบุคคลที่ผมช่วยเหลือนั้นคือบุคคลที่ผมเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง  ทำให้ผมมิสามารถลืมเลือนเหตุการณ์ครั้งนั้นได้  ความสุขใดในโลกก็สุขไม่เท่าการที่เราได้คนรักกลับคืนมากซึ่งความสุขของการให้ คือรอยยิ้มจากหัวใจของผู้รับ   
ต้นไม้หนึ่งต้นเรามิอาจคำนวณอายุได้ฉันใด  สภากาชาดไทยก็คงจะเป็นที่พึ่งพาให้แก่ประชาชนไปตลอดกาลได้ฉันนั้น  121  ปี  ที่ผ่านมาสภากาชาดไทยได้ให้ร่มเงากับประชาชน  บรรเทาทุกข์  บำรุงสุข  มาโดยตลอดจวบจนปัจจุบันสภากาชาดไทยรับพระมหากรุณธิคุณเป็นล้นพ้น  จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี  ในการดำรงตำแหน่งอุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทยในปัจจุบัน  พระองค์ทรงทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ในการส่งเสริมและผลักดันให้เกิดกิจกรรมสาธารณะกุศล  หนึ่งน้ำพระราชหฤทัยประหนึ่งสายธาราที่หลั่งไหลคลายความทุกข์ให้กลายเป็นความสุขของอาณาประชาราช
ชื่นหยาดทิพย์พระราชทานทั่วย่านถิ่น           ยุวมินทร์  ราชสุดา  มหาสยาม
พระเทพรัตน์จรัสคุณบุญงดงาม                     เลื่องลือนามเกียรติทั่วฟ้าก้องสากล
หนึ่งคนให้หลายคนมีชีวิตรอด                         ทรงสืบทอดยอดทานงานกุศล
สรรค์สภากาชาดไทย เพื่อผู้คน                    ช่วยผองชนคลายทุกข์  สร้างสุขไทย