จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ธันวาคม 23, 2024, 07:52:21 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จดหมายเหตุประพาสต้นเมืองกำแพงเพชร  (อ่าน 5996 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1444


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2014, 09:08:47 pm »

กรุพระเครื่อง เมืองคนแกร่ง ศิลาแลงใหญ่ กล้วยไข่หวาน น้ำมันลานกระบือ เลื่องลือมรดกโลก นี่เป็นคำขวัญของจังหวัดกำแพงเพชร  ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม  มีอุทยานประวัติศาสตร์มากมายที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมความงามของเมืองเก่า  และกำแพงเพชรมีเมืองเก่ามาก่อน คือ  เมืองชากังราว  และเมืองนครชุม  นับตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน  นับได้ ๑๐๘ ปีมาแล้วที่ประชาชนคนไทยชาวจังหวัดกำแพงเพชรปลื้มปิติยินดีที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระพุทธเจ้าหลวง (รัชกาลที่ ๕ ) ทรงเสด็จมายังกำแพงเพชร และทรงมาเมืองนครชุม  แต่เดิมเรียกว่า  นครพระชุม  และพระองค์ได้มาสักการะพระพุทธรูปและต้นศรีมหาโพธิ์  และทรงพอพระราชหฤทัยในการชมธรรมชาติบ้านเมืองของชาวจังหวัดกำแพงเพชร  ซึ่งพระองค์ได้เยี่ยมชมบ้านเมืองของชาวจังหวัดกำแพงเพชรได้อย่างพอพระราชหฤทัย
ตามรอยเสด็จประพาสต้น  พระพุทธเจ้าหลวง ณ เมืองกำแพงเพชร  จากการที่ดิฉันได้ไปฟังคำบรรยายในงาน  มหกรรมเฉลิมพระเกียรติ  พระมหากษัตริย์ไทยกับเมืองกำแพงเพชร 
?พลังภูมิปัญญา  พลังวิถีธรรม  พลังความปรองดอง ?  วันที่ ๒๕ เดือนสิงหาคม  พุทธศักราช ๒๒๕๗  ซึ่งจัดสถานที่ที่วัดพระบรมธาตุนครชุม  ซึ่งพระพุทธเจ้าหลวงทรงเสด็จมาวัดพระบรมธาตุแห่งนี้  ดิฉันได้ฟังบรรยายจากวิทยากรโดย  อาจารย์สันติ อภัยราช  และดิฉันได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตว่าจดหมายเหตุประพาสต้นกำแพงเพชร  ซึ่งได้ข้อเท็จจริงว่าตั้งแต่โบราณกาลมาแล้วเมืองนครชุมแต่เดิมเรียกว่า  นครพระชุม  ทุกคนชาวจังหวัดกำแพงเพชร  และตัวดิฉันนั้นอยากทราบว่าเหตุใดพระพุทธเจ้าหลวง (รัชกาลที่ ๕)  ได้ทรงเสด็จมาเมืองกำแพงเพชร  และทรงมาวัดพระบรมธาตุเพราะเหตุใด  ซึ่งดิฉันได้คำตอบคือ  เป็นเพราะชาวบ้านจังหวัดกำแพงเพชรเขตนครชุมได้อพยพย้ายถิ่นฐานไปอาศัยอยู่ที่อื่น เพราะนครชุมในสมัยนั้นมีโรคภัยมาเบียดเบียนชาวบ้านนครชุม และบ้างก็ว่าเป็นถิ่นฐานอาศัยที่ไม่ดี จึงทำให้ชาวนครชุมย้ายไปอยู่ที่อื่น  จึงทำให้พระพุทธเจ้าหลวงทรงมาค้นหาความจริงและเสด็จมาอย่างสามัญชน  เพื่อพิสูจน์ว่าขนาดพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จมาก็ไม่เห็นเป็นอะไร  และพระพุทธเจ้าหลวงทรงอยากเห็นประชาชนของพระองค์  อยากเห็นสภาพบ้านเมืองกำแพงเพชร  ซึ่งพระองค์เสด็จประพาสต้นเมืองกำแพงเพชรครั้งที่ ๒ เมื่อพุทธศักราช  ๒๔๔๙ พระพุทธเจ้าหลวงทรงเสด็จประพาสถึงเขตเมืองกำแพงเพชร  เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม  ทรงเสด็จประพาสเขาหน่อประทับแรมเมืองขาณุ  วันที่ ๑๙ สิงหาคม เสด็จทอดพระเนตรคนผมแดงแล้วเสด็จไปประทับแรมที่บางแขม  วันที่ ๒๐ เสด็จไปประทับแรมตำบลวังนางร้าง วันที่ ๒๑ ประทับแรมตำบลท่าขี้เหล็ก  วันที่ ๒๒  เสด็จประพาสวัดวังพระธาตุ แล้วไปประทับแรมเมืองกำแพงเพชร  วันที่ ๒๓  เสด็จประพาสเมืองกำแพงเพชรพระบรมราชาธิบายเรื่องเมืองกำแพงเพชรเก่า  วันที่ ๒๕  เสด็จประพาสคลองสวนหมาก  ไปบ้านพะโป้  และวัดพระบรมธาตุ  วันที่ ๒๖  ทรงถ่ายรูปคนตระกูลพระยากำแพงเพชรเก่า  เสด็จประพาสวัดคูยาง  ตั้งชื่อถนนราชดำเนิน  แล้วเสด็จล่องจากกำแพงเพชร  วันที่ ๒๗ ประทับแรมบ้านแดน   บันทึกการเดินทางตามรอยพระบาทประพาสต้นพระพุทธเจ้าหลวงไปบ้านพะโป้  พ่อค้าไม้แห่งคลองสวนหมาก  ในวันที่ ๒๕ พระพุทธเจ้าได้ลงเรือข้ามฝากไปฝั่งตะวันตก  ยังไม่ขึ้นวัดพระธาตุเลยไปคลองสวนหมาก  ในคลองมีน้ำไหลเชี่ยว  แต่น้ำใสเพราะเป็นลำห้วย และพระองค์เสด็จไปบ้านพะโป้ ผู้ค้าไม้ที่ชาวกำแพงเพชรให้ความเคารพแก่พะโป้  ซึ่งพระองค์ทรงถ่ายรูปบ้านของพะโป้  และบ้านใกล้เคียงอีกหลังหนึ่ง  ซึ่งนับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่พระพุทธเจ้าหลวงทรงเสด็จเยี่ยมบ้านในครั้งนี้  และพระองค์ทรงรับประทานอาหารกลางวันที่หาดกลางน้ำ  บันทึกการเดินทางตามรอยไปวังพระธาตุ นครไตรตรึงษ์  เมืองท้าวแสนปม  ในวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๔๔๙  พระพุทธเจ้าหลวงทรงให้ความสำคัญต่อวังพระธาตุที่สำคัญๆกับเมืองนครไตรตรึงษ์  และพระองค์ทรงเสมือนดวงตะวันที่ส่องแสงสว่างให้แก่ชาวกำแพงเพชรให้ปราศจากโรคร้าย  ไข้ป่า  ภัยธรรมชาติ  ความสงบ ปลอดภัยจึงมาเยือนแก่ชาวบ้านกำแพงเพชรอีกครั้งหนึ่ง  ในวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๔๔๙ การบันทึกประพาสต้นพระพุทธเจ้าหลวงไปวัดพระบรมธาตุ  เมืองนครชุม พระพุทธเจ้าหลวงทรงเสด็จมาวัดพระบรมธาตุโดยใช้เรือหางแมงป๋อง  พระองค์มากราบไหว้ คุกเข่ากราบพระพุทธรูป พระบรมธาตุ และสักการะต้นศรีมหาโพธิ์ พะโป้เป็นคนบุกเบิกพระบรมธาตุนครชุม ซึ่งพระบรมธาตุครั้งแรกทาสีทอง  ผ่านมา ๒๐ ? ๓๐ ปีกลายเป็นสีดำด่าง ต่อมาได้ทาสีขาว  และต่อมาได้ทาสีทองอย่างเช่นปัจจุบัน  ต่อมาพระพุทธเจ้าหลวงทรงได้รับดาบฟักทอง  พระแสงราชศัสตราประจำเมืองกำแพงเพชรจากหลวงพิพิธอภัย พระองค์ทรงเห็นความสำคัญจึงมอบดาบนี้ให้พระวิเชียรปราการเจ้าเมืองกำแพงเพชรในขณะนั้นให้เป็นแสงราชศัสตรากับเมืองกำแพงเพชรสืบไป  ต่อมาพระพุทธเจ้าหลวงทรงเห็นเทวรูปอันสำคัญของเมืองกำแพงเพชร พระพุทธเจ้าหลวงทรงเรียกเทวรูปนี้ว่า พระอิศวร  นับตั้งแต่นั้นมาก็เป็นสิ่งที่เคารพนับถือของชาวกำแพงเพชรมาช้านาน  พระพุทธเจ้าหลวงทรงทอดพระเนตรเห็นสาวงามเมืองกำแพงเพชรชื่อแม่หวีดเป็นบุตรหลวงพิพิธอภัย อายุ ๑๖ ปี ซึ่งมีรูปพรรณสัณฐานดีกว่าเมืองอื่นในข้างเหนือ  และเป็นคนรู้จักโพสต์ถ่ายรูป  นอกจากนี้พระพุทธเจ้าหลวงทรงเสด็จไปวัดเสด็จเพื่อถ่ายรูปหน้าวัด  และทรงเสด็จประพาสต้นวัดคูยาง  ทรงผ่านถนนสายในว่างามมาก พระองค์จังตั้งชื่อไว้ว่าถนนราชดำเนินจวบจนปัจจุบันพระองค์ทรงชมความงามของหอไตรวัดคูยาง เสด็จประพาสต้นไปศาลหลักเมืองกำแพงเพชร  ประพาสต้นวัดพระแก้วพระพุทธเจ้าหลวงทรงประพาสต้นเมืองกำแพงเพชรเป็นเวลารวม  ๑๐ วัน  จากวันนั้นจนวันนี้ชาวจังหวัดกำแพงเพชรก็ประทับใจ  และจดจำภาพเหล่านั้นได้อยู่เสมอ  ปู่ย่า ตายายก็บอกเล่าสู่รุ่นลูกรุ่นหลานให้ฟังกัน  ต่อมาไม่นานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช (รัชกาลที่ ๙) และพระราชินี ทรงเสด็จมากำแพงเพชรในปีพุทธศักราช ๒๕๑๐  ทรงเสด็จมาเยือนกำแพงเพชรถึง  ๓  ครั้ง  ครั้งที่ ๑ ทั้งสองพระองค์บรวงสรวงพระนเรศวร  และทรงปลูกต้นสัก ในหลวงทรวงปลูกด้านขวามือ พระราชินีทรงปลูกด้านซ้ายมือ  ครั้งที่ ๒  ทั้งสองพระองค์ทรงพระราชกฐินแก่วัดคูยาง  และครั้งที่  ๓  ทรงมาเปิดพิธีในวันลูกเสือชาวบ้านออและได้พระราชทานสิ่งของแก่ประชาชนของพระองค์
ผ่านมา ๑๐๘ ปีแล้วพระพุทธเจ้าหลวงยังคงสถิตในใจชาวกำแพงเพชรอย่างมิรู้ลืมที่พระพุทธเจ้าทรงเคยเสด็จประพาสต้นมาแล้ว  และทรงมีความเป็นกันเอง โดยพระองค์มาอย่างสามัญชนคนธรรมดา ซึ่งชาวกำแพงเพชรประทับใจไม่เคยลืมเลือน  และชาวกำแพงเพชรได้มีความปลื้มปิติอีกครั้งหนึ่งที่ในหลวงและพระราชินีทรงมาเยี่ยมเยียนประชาชนชาวจังหวัดกำแพงเพชรของพระองค์เอง  และถ้าไม่มีพระพุทธเจ้าหลวง(รัชกาลที่ ๕) และในหลวง พระราชินี นครชุม เมืองกำแพงเพชร ก็คงจะไม่มีชื่อเสียงเรียงนามให้ทุกคนได้เรียกอย่างทุกวันนี้
                                                                                                                                             นางสาวสุธาพร มาน้อย  รหัสนักศึกษา ๕๕๑๑๒๑๕๐๙
บันทึกการเข้า
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1444


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 01, 2014, 01:08:52 pm »

ละเอียดชัดเจน ให้ ๑๐ คะแนน
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!