จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
มีนาคม 13, 2025, 03:55:21 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนที่ ๗เล่าสู่กันฟัง เรื่องราวของ “พระเทพวชิรเมธี หรือ หลวงตาเอก” ก่อนถึงวันพระ  (อ่าน 34 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1473


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: มีนาคม 09, 2025, 07:43:42 am »

เล่าสู่กันฟัง เรื่องราวของ “พระเทพวชิรเมธี หรือ หลวงตาเอก”
ก่อนถึงวันพระราชทานเพลิงศพพระเทพวชิรเมธี,ผศ.ดร. (วีระ วรปญฺโญ)
เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร และเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ พระอารามหลวง

ตอนที่ ๗ :  ทุ่มเทเพื่อการศึกษาพระปริยัติธรรมและอุดมศึกษาที่นครสวรรค์

หลังจากสำเร็จการศึกษาเปรียญธรรม ๙ ประโยค หลวงพ่อยังพักประกอบศาสนกิจและ ศึกษาต่อระดับปริญญาโทอยู่ที่วัดราชบุรณะต่อจนถึง พ.ศ. ๒๕๓๙ จนกระทั่งเมื่อทราบข่าวว่า พระราชพุฒิเมธีอาพาธเป็นอัมพฤกษ์ ขาดคนดูแล หลวงพ่อจึงตัดสินใจกลับวัดโพธารามเพื่อดูแล พระราชพุฒิเมธีผู้มีพระคุณที่เป็นทั้งญาติและอาจารย์ หลวงพ่อได้บันทึกเหตุผลที่ย้ายกลับมาอยู่ วัดโพธารามไว้ในข้อความที่หลวงพ่อเขียนรำลึกพระคุณของพระราชวุฒิเมธี ว่า

“ข้าพเจ้าลาท่านอาจารย์มหากองและวัดโพ ฯ ไปเรียนพระบาลีที่กรุงเทพมหานคร วัดราชบูรณะ พ.ศ. ๒๕๒๙ ใช้เวลาเรียนประมาณสิบปี จบประโยคเก้า ท่านอาจารย์และคณะครูของ วัดโพ ฯ ได้ไปแสดงความยินดีกับข้าพเจ้าในฐานะศิษย์และหลาน พระคุณอันนี้ยังตราตรึงในใจ ตลอดเวลา จนกระทั่งท่านอาจารย์มหากองอาพาธ เป็นโรคเส้นเลือดอุดตันเป็นอัมพฤกษ์เดินไม่ได้ ขาดคนดูแลแบบถึงลูกถึงคน คณะศิษย์ที่วัดโพธารามจึงพาท่านอาจารย์มหากองมาในสภาพที่เดิน ไม่ค่อยได้ ขึ้นกุฏิข้าพเจ้าต้องอุ้มขึ้นมา ทำเอาข้าพเจ้าถึงกับร้องไห้ น้ำตาไหลพราก เพราะไม่นึกว่า จะเห็นสภาพท่านอาจารย์แบบนี้เลย และยิ่งได้ทราบว่าที่มานี้จะมานิมนต์กลับวัดโพธารามเพื่อช่วย ดูแลสุขภาพท่านอาจารย์และช่วยบริหารวัดแทนท่านอาจารย์ ใจจริงเราผูกติดกับวัดโพ ฯ อยู่แล้ว และเป็นห่วงท่านอาจารย์อย่างมาก จึงรับปากคณะที่ไปนิมนต์ว่าจะกลับไปอยู่วัดโพ ฯ แต่ช่วงนั้น ทำวิทยานิพนธ์ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล พอทำวิทยานิพนธ์เสร็จไม่ทันรับปริญญาก็เดินทาง กลับวัดโพ ฯ โดยมีหลวงพ่อพระสุนทรธรรมวาที เจ้าอาวาสวัดโพ ฯ ในขณะนั้นและคณะครูบา อาจารย์มารับเดินทางกลับ จำได้ว่า วันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๘ ก่อนอาสาฬหบูชาหนึ่งวัน พ.ศ. ๒๕๓๙

การดูแลอาการป่วยของท่านอาจารย์กองนั้นได้สูตรมาว่า คนเป็นอัมพฤกษ์เกี่ยวข้องกับ จิตใจด้วย หากได้ญาติพี่น้องมาช่วยดูแลจะดีขึ้น ข้าพเจ้าจึงได้ไปเชิญญาติของท่านอาจารย์มานอน ด้วยคนละห้าคืน สิบคืน มาคุย มาช่วยนวด มาทำอาหารพอที่จะทำได้ และวันว่างก็พานั่งรถไปในที่ ต่าง ๆ จนอาการค่อย ๆ ดีขึ้น และเมื่อหลวงพ่อพระสุนทรธรรมวาที เจ้าอาวาสวัดโพธาราม มรณภาพ ท่านอาจารย์ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองนครสวรรค์ อายุ ท่านครบ ๘๐ ปี ก็ได้รับยกเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ เป็นที่น่าอัศจรรย์ หรือด้วยบุญ บารมีของท่านอาจารย์ ท่านจึงสุขภาพแข็งแรง จากการที่ท่านอาพาธเป็นอัมพฤกษ์มาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๘ มีอายุยืนยาวมาได้ถึง พ.ศ. ๒๕๖๕ รวม ๒๗ ปี ซึ่งหลายคนพูดเป็นแนวเดียวกันว่า ท่าน อาจารย์กองคงมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน ความดีที่ท่านทำไว้ สร้างศิษยานุศิษย์เป็นมหาเปรียญมากมาย เป็นผลบุญอันยิ่งใหญ่ส่งผลให้ท่านมีอายุยืนยาว”

หลวงพ่อกลับมาอยู่วัดโพธารามตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๓๙ เมื่อกลับมาอยู่วัด โพธารามก็ได้ทำการดูแลอุปัฏฐากพระราชพุฒิเมธีอย่างสุดความสามารถ จนเป็นที่ยกย่องชื่นชม จากญาติและคณะสงฆ์ว่าเป็นผู้ที่ความกตัญญูเป็นเลิศ ไม่นานนักหลวงพ่อก็ได้รับแต่งตั้งเป็น อาจารย์ใหญ่โรงเรียนพระปริยัติธรรมคุณาภรณ์ประสาธน์ วัดโพธาราม แทนพระราชพุฒิเมธีซึ่ง อาพาธ

หลังจากย้ายมาอยู่วัดโพธารามได้ ๑ พรรษา และทำหน้าที่เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียน พระปริยัติธรรมคุณาภรณ์ประสาธน์ได้ครบ ๑ ปี พระสุนทรธรรมวาที เจ้าอาวาสวัดโพธาราม และ พระเถระภายในวัดได้เห็นความรู้ความสามารถของหลวงพ่อ และมีความเหมาะสมทั้งวัยวุฒิและ คุณวุฒิจึงเสนอชื่อหลวงพ่อเป็นพระสังฆาธิการ ในตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ หลวงพ่อจึงได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธาราม พระอารามหลวง และในปีเดียวกันนี้ หลวงพ่อยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนบาลีเตรียมอุดมศึกษาวัด โพธาราม และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดโพธารามอีกด้วย

ช่วงเวลาที่หลวงพ่อดูแลบริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรมคุณาภรณ์ประสาธน์วัดโพธาราม อยู่นั้น ได้ใช้แนวทางที่ครูบาอาจารย์รุ่นก่อน ๆ ดำเนินไว้เป็นตัวอย่าง ดูแลการจัดการเรียนการ สอนให้มีความเข้มงวด จัดครูสอนให้เหมาะสมกับชั้นเรียน แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวจำนวนพระภิกษุ สามเณรที่บวชเรียนได้ลดจำนวนลงมากกว่าตั้งแต่ครั้งที่หลวงพ่อมาอยู่วัดโพธารามใหม่ ๆ ประกอบ กับมีการเปิดสำนักเรียนบาลีขึ้นหลายแห่ง ทั้งในจังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดข้างเคียง แต่ถึง กระนั้นจำนวนนักเรียกก็ไม่ต่ำกว่า ๑๕๐ รูป ซึ่งถือว่าเป็นสำนักเรียนขนาดใหญ่ ช่วงก่อนสอบบาลี สนามหลวงก็จะมีการจัดอบรมบาลีก่อนสอบตามแนวทางที่พระครูวชิรปริยัติคุณเคยพาทำ นอกจากนี้ในช่วงปิดเทอมหรือหลังสอบบาลีก็ยังมีการจัดทัศนศึกษาเพื่อเป็นการผ่อนคลายและเป็นขวัญกำลังใจให้กับนักเรียน ภายใต้การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากพระราชพุฒิเมธี เจ้าอาวาสวัดที่ ครองวัดต่อจากพระสุนทรธรรมวาทีซึ่งมรณภาพเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๑

นอกจากการรับภาระในการเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนพระปริยัติธรรมคุณาภรณ์ประสาธน์ วัดโพธารามแล้ว เมื่อหลวงพ่อกลับมาอยู่วัดโพธารามได้เพียง ๑ เดือน พระเดชพระคุณเพระเทพ ญาณโมลี (ประสิทธิ์มิตฺตธมฺโม ป.ธ. ๖) อดีตรองเจ้าคณะภาค ๔ และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ได้ มีดำริเรื่องจัดตั้งสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาเพื่อพระภิกษุสามเณรให้ได้รับการศึกษาชั้นสูง นอกจากการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรมและบาลีจึงได้ปรึกษากันภายในกับพระศรีวิสุทธิ คุณ (สฤษฏิ์สิริธโร ป.ธ. ๙) เลขานุการรองเจ้าคณะภาค ๔ และรองเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ (ต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นที่พระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์) และ พระมหา วีระ วรปญฺโญ ป.ธ. ๙ วัดโพธาราม ณ กุฏิเทพวิจิตร วัดนครสวรรค์ ช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึ่งพระเทพญาณโมลีพิจารณาเห็นว่า พระศรีวิสุทธิคุณและพระมหาวีระ วรปญฺโญ จัก เป็นกำลังสำคัญในการบริหารจัดการการศึกษาแนวใหม่ให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองได้ และทั้งสองรูป รับปากว่าจะช่วยกันสนองงานและสานงานตามเจตนารมณ์อย่างเต็มกำลังความสามารถ
 
นอกจากการรับภาระในการเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนพระปริยัติธรรมคุณาภรณ์ประสาธน์ วัดโพธารามแล้ว เมื่อหลวงพ่อกลับมาอยู่วัดโพธารามได้เพียง ๑ เดือน พระเดชพระคุณเพระเทพ ญาณโมลี (ประสิทธิ์มิตฺตธมฺโม ป.ธ. ๖) อดีตรองเจ้าคณะภาค ๔ และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ได้ มีดำริเรื่องจัดตั้งสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาเพื่อพระภิกษุสามเณรให้ได้รับการศึกษาชั้นสูง นอกจากการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรมและบาลีจึงได้ปรึกษากันภายในกับพระศรีวิสุทธิ คุณ (สฤษฏิ์สิริธโร ป.ธ. ๙) เลขานุการรองเจ้าคณะภาค ๔ และรองเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ (ต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นที่พระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์) และ พระมหา วีระ วรปญฺโญ ป.ธ. ๙ วัดโพธาราม ณ กุฏิเทพวิจิตร วัดนครสวรรค์ ช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึ่งพระเทพญาณโมลีพิจารณาเห็นว่า พระศรีวิสุทธิคุณและพระมหาวีระ วรปญฺโญ จัก เป็นกำลังสำคัญในการบริหารจัดการการศึกษาแนวใหม่ให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองได้ และทั้งสองรูป รับปากว่าจะช่วยกันสนองงานและสานงานตามเจตนารมณ์อย่างเต็มกำลังความสามารถ

 ต่อมามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มีหนังสือที่ มจร ๐๐๑/๕๒ ลงวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๔๐ ถึงพระศรีวิสุทธิคุณ ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัด นครสวรรค์ เรื่อง แจ้งมติการประชุมสภามหาวิทยาลัย ความว่าทางสภามหาวิทยาลัย มีมติในการ ประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๔๐ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๐ อนุมัติให้จัดตั้งศูนย์การศึกษา ของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ศูนย์การศึกษาวัดนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ โดยจัดตั้งคณะ พุทธศาสตร์ คณะเดียวเท่านั้น ส่วนการดำเนินการในรายละเอียดต่าง ๆ ขอให้ติดต่อประสานงานที่ คณะพุทธศาสตร์

จากมติสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นเหตุให้กำเนิด “ศูนย์การศึกษา วัดนครสวรรค์จังหวัดนครสวรรค์” โดยใช้อาคารเรียนเทพประสิทธิ์วิทยากร ตามเจตนารมณ์ของ คณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๔๐ เป็นต้นมา จัดการศึกษาระดับ ปริญญาตรีคณะพุทธศาสตร์สาขาวิชาพระพุทธศาสนา มีนิสิตรุ่นแรก จำนวน ๔๕ รูป โดยมี พระศรีวิสุทธิคุณ (สฤษฏิ์สิริธโร ป.ธ. ๙) เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และรองเจ้าคณะจังหวัด นครสวรรค์ เป็นผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ประจำศูนย์การศึกษาวัดนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ มีพระมหาวีระ วรปญฺโญ ป.ธ. ๙, พระมหาสมส่วน ปฏิภาโณ ป.ธ. ๙ (ปัจจุบันได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นที่พระศรีสุทธิพงศ์) และพระอดิศัย ปภสฺสโร, ดร. เป็นอาจารย์ประจำ

จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ศูนย์การศึกษาวัดนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ยกฐานะขึ้นเป็นวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ พระศรีวิสุทธิคุณได้รับ แต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ ส่วนหลวงพ่อก็ได้รับความเมตตาให้สนองงานด้าน การบริหารวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ โดยได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ ทำงานพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ควบคู่กับพระศรีวิสุทธิคุณมาตามลำดับ จนปัจจุบันวิทยาลัย สงฆ์นครสวรรค์ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นวิทยาเขตนครสวรรค์ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๙ พระศรีวิสุทธิคุณ หรือในปัจจุบันคือพระธรรมวชิรธีรคุณได้รับแต่งตั้งเป็นรองอธิการบดีวิทยาเขตนครสวรรค์ ส่วน หลวงพ่อได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐

หลวงพ่อบริหารดูแลโรงเรียนพระปริยัติธรรมคุณาภรณ์ประสาธน์ วัดโพธารามได้ราว ๔ ปี ทุกอย่างลงตัวเข้าที่เข้าทางหมดแล้ว ส่วนวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ก็กำลังเริ่มพัฒนาให้เป็นระบบ หลังยกฐานะเป็นวิทยาลัยสงฆ์ได้ปีกว่า ๆ ก็มีเหตุที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตหลวงพ่ออีก ครั้ง เมื่อพระเถระผู้ใหญ่ได้มีคำสั่งให้หลวงพ่อกลับไปอยู่จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อบริหารและดูแล วัดพระบรมธาตุ พระอารามหลวง ซึ่งมีทั้งปูชนียสถานสำคัญและมีสำนักเรียนบาลีที่ร่วงโรยหลัง การมรณภาพของพระสิทธิวชิรโสภณ (ช่วง ปญฺญาโชโต) เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ และเจ้าคณะ จังหวัดกำแพงเพชร

อย่างไรก็ดี ผลของความทุ่มเทในการส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมและการศึกษา ระดับอุดมศึกษาของหลวงพ่อที่ทำไว้เมื่อครั้งอยู่วัดโพธาราม จังหวัดนครสวรรค์ นอกจากจะผลิต นักเรียนและบัณฑิตที่มีคุณภาพและคุณธรรมให้กับพระพุทธศาสนาและสังคมแล้ว หลวงพ่อยัง ได้รับการคัดเลือกจากคณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ให้ส่งรายชื่อเข้ารับรางวัลเสาเสมาธรรมจักร ผู้ทำ คุณประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา สาขาส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรม ซึ่งหลวงพ่อก็ได้รับการ คัดเลือกในระดับประเทศ ให้เข้ารับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราช เจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีเมื่อครั้งดำรงพระยศสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีในเทศกาลวันวิสาขบูชา พ.ศ. ๒๕๔๔

แม้ว่าหลวงพ่อจะย้ายมาอยู่ที่วัดพระบรมธาตุ จังหวัดกำแพงเพชร แต่ในทุกวันที่ ๑๐ ตุลาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันมรณภาพของพระธรรมคุณาภรณ์ (เช้า ฐิตปญฺโญ ป.ธ. ๙) อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธาราม ศิษยานุศิษย์วัดโพธารามถือว่าวันนี้เป็นวันกตัญญู เป็นวันรวมพลศิษย์ เก่าวัดโพธารามประจำปีหลวงพ่อก็จะเดินทางไปร่วมงานทุกปี และภายหลังหลวงพ่อยังได้รับเลือก ให้เป็นประธานศิษย์เก่าวัดโพธารามอีกด้วย

ผู้เขียน : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ธีระวัฒน์ แสนคำ
#ติดตามอ่านต่อตอนที่  ๘
#หลวงตาเอก #วัดพระบรมธาตุนครชุม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!