จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
มีนาคม 13, 2025, 03:38:08 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนที่ ๙เล่าสู่กันฟัง เรื่องราวของ “พระเทพวชิรเมธี หรือ หลวงตาเอก” ก่อนถึงวันพระ  (อ่าน 23 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1473


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: มีนาคม 11, 2025, 05:00:30 am »

เล่าสู่กันฟัง เรื่องราวของ “พระเทพวชิรเมธี หรือ หลวงตาเอก”
ก่อนถึงวันพระราชทานเพลิงศพพระเทพวชิรเมธี,ผศ.ดร. (วีระ วรปญฺโญ)
เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร และเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ พระอารามหลวง

ตอนที่ ๙ :  แนวทางพัฒนาวัดพระบรมธาตุ : “๕ ปีซ่อม ๕ ปีสร้าง ๕ ปีสวย”

 เมื่อหลวงพ่อได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ตามระเบียบ กฎหมายของคณะสงฆ์ก็ถือว่าหลวงพ่อเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดพระบรมธาตุ ที่มี ความอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์และคุณวุฒิ (ซึ่งแต่เดิมพระมหาเปรียญธรรม ๙ ประโยคก็เป็น สมณศักดิ์ที่สูงกว่าพระครูผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับภายใน วัด) ทางเจ้าคณะผู้ปกครองจึงเสนอชื่อหลวงพ่อเพื่อรับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชแต่งตั้งให้ หลวงพ่อเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ จังหวัดกำแพงเพชร

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน ป.ธ. ๙) เมื่อครั้งดำรง พระยศสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จึงอาศัยอำนาจตาม ความในข้อ ๓๓ แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๔ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระ สังฆาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ และตามมติมหาเถรสมาคม ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๔๕ เมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๔๕ จึงแต่งตั้งให้พระศรีวชิราภรณ์ (วีระ) ฉายา วรปญฺโญ อายุ ๔๒ พรรษา ๒๒ วิทยาฐานะ ป.ธ. ๙ พธ.บ. วัดพระบรมธาตุ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระ บรมธาตุ ตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร มีอำนาจและหน้าที่ตาม พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ แต่งตั้ง ณ วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๔๕

การที่หลวงพ่อได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุอย่างเป็นทางการ ถือ ว่าเป็นผลดีสำหรับการเริ่มต้นในการปรับปรุง ซ่อมแซมและพัฒนาวัดพระบรมธาตุของหลวงพ่อ ที่ สำคัญคือยังความสมัครสมานสามัคคีให้เกิดขึ้นภายในวัดพระบรมธาตุ เพราะจากนี้ไปภายในวัดพระบรมธาตุจะไม่มีการแบ่งกลุ่มแบ่งพวกเหมือนช่วง ๓ - ๔ ปีที่ผ่านมา เนื่องจากบัดนี้ทางวัดได้ เจ้าอาวาสตัวจริงแล้ว ซึ่งในท้ายพระบัญชาแต่งตั้งเจ้าอาวาสพระอารามหลวงยังมีข้อความกำชับไว้ ชัดเจนว่า “พระภิกษุสามเณรและคฤหัสถ์ที่อยู่ในวัดดังกล่าวข้างต้น จงอยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาส ที่ได้รับแต่งตั้งแล้วนั้น ซึงปฏิบัติการโดยชอบด้วยพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติประกาศของมหาเถรสมาคม” ดังนั้น พระภิกษุสามเณรภายในวัดจึง ต้องปฏิบัติตาม หลวงพ่อจึงมีอำนาจโดยชอบธรรมในการบริหารวัดพระบรมธาตุ

ในปีเดียวกันนี้ หลวงพ่อยังได้รับคัดเลือกจากคณะสงฆ์จังหวัดกำแพงเพชรในการเข้าสอบ พระอุปัชฌาย์ และหลวงพ่อสามารถสอบผ่านทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติตามเกณฑ์ของมหาเถร สมาคม ทำให้หลวงพ่อได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ประเภทวิสามัญ (คือสามารถทำการบรรพชา อุปสมบทกุลบุตรนอกเขตปกครองของตนเองได้) อีกด้วย

หลวงพ่อเล่าให้ผู้เขียนและลูกศิษย์โดยเฉพาะกลุ่มที่ศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยฟังเสมอว่า ในการพัฒนาวัดพระบรมธาตุนั้นหลวงพ่อมีแนวทางหรือ แผนงานในการปฏิบัติว่า “๕ ปีซ่อม ๕ ปีสร้าง ๕ ปีสวย” ซึ่งหลวงพ่ออธิบายว่า

๕ ปีซ่อม หมายถึง จะให้ช่วงเวลา ๕ ปี (กำหนดไว้ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๖ - ๒๕๕๐) ในการ ซ่อมแซมปรับปรุงอาคารเสนาสนะและสถานที่สำคัญภายในวัดให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ใช้งาน ไดดี และยังศรัทธาของพุทธศาสนิกชนให้เกิดขึ้น

 ๕ ปีสร้าง หมายถึง หลังจากผ่านไป ๕ ปีแล้วจะใช้เวลาอีก ๕ ปี (กำหนดไว้ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๑ - ๒๕๕๕) ในการสร้างสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ที่มีความจำเป็นสำหรับการพัฒนาวัดพระบรม ธาตุให้เกิดขึ้น รวมทั้งสร้างพระภิกษุสามเณรที่มีความรู้ความสามารถให้กับพระพุทธศาสนา สร้าง คนหรือเยาวชนสำหรับเป็นกำลังหลักในการพัฒนาสังคมประเทศชาติ

๕ ปีสวย หมายถึง จะใช้เวลาการปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในวัดพระบรมธาตุอีก ๕ ปี (กำหนดไว้ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๖๐) เพื่อให้มีความสวยงาม เป็นทั้งแหล่งเรียนรู้และแหล่ง ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดกำแพงเพชรในด้านพระพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์ โบราณคดี และ ศิลปวัฒนธรรม
ที่ผ่านมาจากการที่ได้สัมผัสหลวงพ่อก็จะพบว่า ท่านพยายามใช้แนวคิดนี้ให้ประสบ ความสำเร็จดังที่ตั้งใจไว้ แม้ว่าบางอย่างอาจจะช้ากว่าที่ตั้งเป้าไว้ก็ตาม แต่ทั้งหมดทั้งปวงล้วนแต่ เห็นได้ถึงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาวัดพระบรมธาตุของหลวงพ่อ ซึ่งผู้เขียนขอสรุปผลการพัฒนาวัด พระบรมธาตุของหลวงพ่อตามแนวคิด “๕ ปีซ่อม ๕ ปีสร้าง ๕ ปีสวย” ดังนี้

ฮืม?๕ ปีซ่อม ซึ่งหลวงพ่อกำหนดไว้ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๔๖ - ๒๕๕๐ หลวงพ่อได้ดำเนินการ ซ่อมแซมปรับปรุงวัดพระบรมธาตุโดยเฉพาะเรื่องของสิ่งปลูกสร้างและเสนาสนะต่าง ๆ ได้แก่
พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้บูรณปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญหลังเก่าซึ่งทรุดโทรมอย่างมาก จาก หลังคาทรงไทยจั่วเดียวเป็นหลังคาทรงไทยสามจั่ว เมื่อบูรณปฏิสังขรณ์แล้วเสร็จในปีต่อมาก็ ปรับปรุงพื้นที่ศาลาการเปรียญชั้นบนเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน เป็นที่รวบรวมและจัดแสดง โบราณวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้และนิทรรศการภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยจัดตั้งเป็นศูนย์ส่งเสริม วัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนตำบลนครชุม

ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๔๗ - ๒๕๔๘ หลวงพ่อเห็นว่าองค์พระบรมธาตุนครชุมซึ่งเป็นปูชนีย สถานศักดิ์สิทธิ์ของวัดพระบรมธาตุที่ทาด้วยสีขาวนั้นเต็มไปด้วยคราบตะไคร่น้ำเป็นสีดำกระจายอยู่ ทั่วองค์พระบรมธาตุนครชุม ไม่เป็นที่รื่นรมย์สบายใจและยังศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ประกอบ กับหลวงพ่อได้ศึกษาข้อมูลจากภาพถ่ายเก่าพบว่าเดิมที่องค์พระบรมธาตุเคยทาด้วยสีเหลืองทอง จึงพร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนซึ่งประกอบด้วยคณะศรัทธาหลายคณะ ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบูรณะและทาสีทองทั่วองค์พระบรมธาตุนครชุม ซ่อมแซมฉัตร ปูหินแกรนิตและสร้างรั้วอัลลอยด์ รอบองค์พระบรมธาตุนครชุม รวมเงินทั้งหมดประมาณ ๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท โดยมีพิธีนำยอดฉัตรลง เมื่อวันมาฆบูชาปีนั้น บูรณะอยู่ ๓ เดือนจึงแล้วเสร็จ และมีพิธียกยอดฉัตรขึ้นเมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๘ ทำให้องค์พระบรมธาตุนครชุมมีสีทองดังที่ปรากฏในปัจจุบัน ในการยกยอด ฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือองค์พระบรมธาตุ มีเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ กรุงเทพ ฯ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือในขณะนั้นเป็นประธาน

พ.ศ. ๒๕๔๙ ได้บูรณะพระวิหารหลังเก่าทางด้านหลังพระอุโบสถ ปรับเป็นห้องสมุด พระพุทธศาสนา ปัจจุบันยังไดขยายใช้เป็นห้องสมุดและห้องคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยมหา จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์กำแพงเพชร

นอกจากการซ่อมแซมบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัดแล้ว หลวงพ่อยังต้องใช้ความรู้ ความสามารถที่มีในการแก้ปัญหาชุมชนแออัดซึ่งเป็นที่อยู่ของคนไร้บ้านและที่ทำกินที่มาสร้างที่พัก ชั่วคราวขึ้นอยู่บริเวณตามแนวตลิ่งคลองสวนหมากเดิมทางด้านทิศเหนือของวัด (เรียงยาวตั้งแต่ บริเวณต้นพระศรีมหาโพธิ์ทางทิศเหนือไปจนถึงห้องสมุดประชาชน ฯ เดิมบริเวณนี้เรียกว่า หน้าวัด เพราะอดีตติดคลองสวนหมากซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลักของชุมชนนครชุม) ซึ่งคนกลุ่มที่อาศัย อยู่ที่นี่เป็นปัญหาสังคมที่เรื้อรังมานานมาก ทั้งเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติดและเสี่ยงต่อการเกิด อาชญากรรม แทบไม่มีใครอยากจะเดินผ่านไปทางนั้น หลวงพ่อเล่าว่าเมื่อตอนมาอยู่วัดพระบรม ธาตุใหม่ ๆ ได้ขึ้นมาพักอยู่บนชั้นสองของศาลาการเปรียญหลังเก่าซึ่งอยู่คนละฝากถนนกับ บ้านเรือนชั่วคราวดังกล่าว ได้เห็นทั้งภาพการซื้อขายยาบ้า ได้ยินการวางแผนลักขโมย ที่หนักกว่า นั้นคือได้ยินว่า “เจ้าอาวาสมาใหม่ จะแน่สักแค่ไหน ถ้ามายุ่งกับพวกกูก็จะยิงทิ้ง” ทำให้หลวงพ่อ ตระหนักถึงปัญหาชุมชนแออัดนี้เป็นอย่างมาก

หลวงพ่อใช้วิธีการเป็นมิตรเข้าหาคนที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดนี้ นำหลักพุทธธรรม “พรหมวิหาร ๔” มาใช้ในการแก้ปัญหา โดยเอาข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปมอบให้บ้าง เอาขนม นมเนยไปแจกเด็ก ๆ บ้าง ชวนคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ชวนคนที่ว่างงานมาช่วยงานภายในวัด จากนั้นหลวงพ่อก็ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากคนกลุ่มนี้มากขึ้น เมื่อมีความไว้วางใจต่อกันและ เข้าใจปัญหาของชาวบ้านกลุ่มนี้ โดยเฉพาะเรื่องการไม่มีที่ดินอยู่อาศัยหรือที่ดินทำกิน หลวงพ่อจึง ปรึกษาหารือกับหน่วยงานราชการในจังหวัดกำแพงแพชรในการช่วยแก้ปัญหา ท้ายที่สุดก็ได้ แนวทางว่าทางราชการมีที่ว่างเปล่าสำหรับให้ชาวบ้านอยู่อาศัยได้ในท้องที่บ้านป่าไผ่ หมู่ที่ ๖ ตำบลนครชุม ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันตก โดยทางราชการจะจัดสรรที่ดินให้ปลูกบ้าน ขณะที่ ทางวัดพระบรมธาตุก็จะสนับสนุนการรื้อถอนบ้านไปปลูก และมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง จนเป็นที่พอใจของชาวบ้านกลุ่มนี้ และยินดีย้ายออกไปอยู่ที่หมู่บ้านป่าไผ่จนเกือบหมดทุกครัวเรือน (เหลือครัวเรือนเดียว ซึ่งต่อมาได้ย้ายไปอยู่ฟากคลองสวนหมากแทน)

หลังจากที่ชาวบ้านย้ายออกไป หลวงพ่อก็ร่วมกับทางเทศบาลตำบลนครชุมในการปรับภูมิ ทัศน์รอบต้นพระศรีมหาโพธิ์และบริเวณทางทิศเหนือของวัด ให้มีความปลอดภัยและน่าเยี่ยมชม มากขึ้น ทางทิศตะวันตกของต้นพระศรีมหาโพธิ์ทางเทศบาลตำบลนครชุมเข้ามาจัดสร้างเป็นสวน สุขภาพสำหรับเป็นที่ออกกำลังกายของชาวบ้านหมู่ที่ ๓ บ้านปากคลองใต้ ส่วนพื้นที่ด้านทิศเหนือ ตรงข้ามกับพระอุโบสถหลวงพ่อให้ปรับเป็นสวนเกษตรของวัด สำหรับให้สามเณรได้มาปลูกผัก ปลอดสารพิษเพื่อใช้ในการประกอบภัตตาหารเพลสำหรับพระภิกษุสามเณรภายในวัด

การบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะต่าง ๆ ภายในวัดพระบรมธาตุให้มั่นคงถาวร และปรับปรุง ภูมิทัศน์ภายในวัดให้มีความเป็นสัปปายะสมกับเป็นพระอารามหลวง ทำให้เจ้าคณะพระสังฆาธิการ ผู้ปกครองทั้งในระดับจังหวัดและระดับภาคเล็งเห็นในความรู้ความสามารถ จึงเสนอชื่อหลวงพ่อไป ยังมหาเถรสมาคมเพื่อแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร โดยที่หลวงพ่อไม่เคยดำรง ตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอมาก่อน ซึ่งหลวงพ่อเองเคยเคยเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า

“แค่เราถูกส่งมาอยู่วัดพระบรมธาตุก็ถูกจับจ้องมากแล้ว บางคนก็ว่าเรามาแย่งเขา ผู้ใหญ่ ก็ยังจะให้เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดอีก ไอ้เราก็ไม่อยากเป็นหรอก เพราะเพิ่งมาอยู่ใหม่ อีกอย่าง หลวงพ่อสิทธิ์  พระอุปัชฌาย์ของเราตอนนั้นก็เป็นเจ้าคณะอำเภอลานกระบือ จะให้เป็นรอง จังหวัดสูงกว่าครูบาอาจารย์เราก็ไม่อยากเป็น แต่ผู้ใหญ่ก็สั่งมาว่าเจ้าคุณศรี ฯ ต้องเป็นรองเจ้าคณะ จังหวัดเท่านั้น ช่วยสนองงานคณะสงฆ์ทางด้านการศึกษาพระปริยัติธรรม เรื่องอื่น ๆ ไม่ต้องกังวล เชื่อว่าทุกรูปจะเข้าใจ เราก็เลยว่าแล้วแต่ผู้ใหญ่จะเมตตา ขัดไม่ได้เพราะท่านว่าผู้ใหญ่วางตัวเอาไว้ แต่แรกแล้ว”

ต่อมา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ ป.ธ. ๙) วัดสระเกศ กรุงเทพ ฯ ซึ่งเป็น ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๑๖ แห่งกฎ มหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๔ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตาม ความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ และตามมติมหาเถรสมาคม ในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๕๐ เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ จึงแต่งตั้งให้พระศรีวชิราภรณ์ (วีระ) ฉายา วรปญฺโญ อายุ ๔๘ พรรษา ๒๘ วิทยาฐานะ ป.ธ. ๙ พธ.บ. ศษ.บ. วัดพระบรมธาตุ ตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัด กำแพงเพชร ปัจจุบันมีตำแหน่งในทางปกครองคณะสงฆ์เป็นเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร มีอำนาจหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ในเขตจังหวัดของตน ตามที่เจ้าคณะจังหวัดมอบหมาย แต่งตั้ง ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๐

พระเทพปริยัติ (อดุลย์ อมโร ป.ธ. ๘) เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร (สมณศักดิ์และ ตำแหน่งของพระพรหมวัชรวิสุทธิ์ในขณะนั้น) ได้มอบหมายให้หลวงพ่อเป็นรองเจ้าคณะจังหวัด กำแพงเพชร ฝ่ายการศึกษา รับผิดชอบดูแลงานการศาสนศึกษาและการศึกษาสงเคราะห์ของ คณะสงฆ์จังหวัดกำแพงเพชร และหลวงพ่อได้แต่งตั้งให้พระเมธีวชิรภูษิต (จำเนียร จิรวํโส ป.ธ. ๙) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ เป็นเลขานุการรองเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร ฝ่ายการศึกษา

ผู้เขียน : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ธีระวัฒน์ แสนคำ
#ติดตามอ่านต่อตอนที่  ๑๐
#หลวงตาเอก #วัดพระบรมธาตุนครชุม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 11, 2025, 05:02:19 am โดย apairach » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!