จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
มีนาคม 13, 2025, 04:05:51 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตอน ๑ เล่าสู่กันฟัง เรื่องราวของ “พระเทพวชิรเมธี หรือ หลวงตาเอก  (อ่าน 131 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1473


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: มีนาคม 04, 2025, 12:40:34 pm »

เล่าสู่กันฟัง เรื่องราวของ “พระเทพวชิรเมธี หรือ หลวงตาเอก”
ก่อนถึงวันพระราชทานเพลิงศพพระเทพวชิรเมธี,ผศ.ดร. (วีระ วรปญฺโญ)
เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร และเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ พระอารามหลวง

ตอนที่ ๑ : เล่าประวัติพระเทพวชิรเมธี :หลวงตาเอกแห่งวัดพระบรมธาตุ
พระเดชพระคุณพระเทพวชิรเมธี (วีระ วรปญฺโญ/ภูมิเมือง, ป.ธ. ๙, ผศ.ดร.) อดีตเจ้าคณะ จังหวัดกำแพงเพชร อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ พระอารามหลวง ตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร ถือเป็นพระนักการปกครอง เป็นพระนักการศึกษา ทั้งการศึกษา พระปริยัติธรรมและการศึกษาทางโลก เป็นพระนักพัฒนาชุมชนท้องถิ่นที่ยากผู้ใดเทียบได้ และเป็น พระนักการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ทรงภูมิความรู้ เป็นผู้เพียบพร้อมด้วยสีลสุตาธิคุณ เป็นผู้ที่ใคร่ ต่อการศึกษาและพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา เป็นปราชญ์ผู้ที่เป็นครูอาจารย์ของศิษย์ทั้งหลาย เป็น เนื้อนาบุญยิ่งใหญ่ของชาวกำแพงเพชร บำเพ็ญประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและสังคม ประเทศชาตินานัปการมาโดยลำดับ จนได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ พระอารามหลวงแห่งแรกของจังหวัดกำแพงเพชร อันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุนครชุมอัน ศักดิ์สิทธิ์ และได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร เรื่องราวประวัติ อัธยาศัย และเกียรติคุณทั้งหลายของพระเทพวชิรเมธีที่ปรากฏในเนื้อหาที่ทุกท่านจะได้อ่านต่อไปนี้จึงเป็น เพียงส่วนน้อยที่ผู้เขียนได้เรียบเรียงขึ้นจากเอกสาร ความทรงจำและคำบอกเล่าของผู้เกี่ยวข้อง เท่าที่จะทำได้ตามข้อจำกัดของเวลาเท่านั้น ผู้ที่เคยได้สัมผัสกับพระเทพวชิรเมธีในการร่วมทำงาน หรือกิจกรรมต่าง ๆ ย่อมเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาและจิตใจของตนเองว่าพระเทพวชิรเมธีเป็น พระภิกษุที่มีเมตตากับทุกคนที่เข้ามาหา ไม่ถือตน ไม่ถือยศศักดิ์ ไม่ขัดศรัทธา มีอัธยาศัยไมตรีอันดี กับทุกคน จึงไม่แปลกที่พระเทพวชิรเมธีจะใช้นามปากกาและชื่อเฟสบุ๊ก (Facebook) ส่วนตัวว่า “หลวงตาเอก แห่งวัดพระบรมธาตุ” การนำเสนอประวัติของพระเทพวชิรเมธีในหนังสือที่จัดพิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงาน พระราชทานเพลิงศพของพระเทพวชิรเมธี ทางคณะศิษยานุศิษย์ผู้ใกล้ชิดและผู้รับผิดชอบในการ จัดทำหนังสืออนุสรณ์มีความเห็นสอดคล้องกันว่า ควรเขียนนำเสนอประวัติของพระเทพวชิรเมธีใน แบบพรรณนาความเรียงที่อ่านเข้าใจง่าย และเป็นข้อมูลที่ต่างไปจากการนำเสนอประวัติแบบ สังเขปในแหล่งอื่น ซึ่งเป็นข้อมูลจากคำบอกเล่า การได้อยู่รับใช้ถวายงานและร่วมงานกับพระเทพ วชิรเมธีของผู้ที่ใกล้ชิดเท่าที่สามารถจะสืบค้นข้อมูลได้ตามข้อจำกัดเรื่องเวลา โดยมีผู้เขียน คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ธีระวัฒน์ แสนคำ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่เคยได้อยู่ใกล้ชิดและรับใช้ถวายงาน ด้านต่าง ๆ ต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ เรื่อยมา และได้มีโอกาสสัมภาษณ์และรับฟังเรื่องราวใน อดีตของพระเทพวชิรเมธีในหลายวาระเป็นผู้เรียบเรียง ซึ่งจากนี้ไปเพื่อความสะดวกและเข้าใจง่าย ของผู้อ่าน ผู้เขียนจึงขอใช้ชื่อ “หลวงพ่อ” แทนชื่อพระเทพวชิรเมธีตามที่ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ใช้เรียก

ชาติภูมิของหลวงพ่อ
พระเทพวชิรเมธีเกิดที่บ้านเลขที่ ๖๐ หมู่ที่ ๕ บ้านคุยป่ารัง ตำบลวังควง (ขณะนั้นยัง ขึ้นกับตำบลท่าไม้) อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๒ แต่ด้วยความที่ใน ยุคนั้นการจดจำรายละเอียดวัน เดือน ปีเกิดยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก การแจ้งเกิดก็ล่าช้ากว่ากำหนด ข้อมูลจากการแจ้งเกิดจึงมักไม่ตรงกับความจริง ส่วนใหญ่มักจะจำเฉพาะปีเกิดเท่านั้น ซึ่งพิจารณา จากความเป็นไปได้แล้ว หลวงพ่อน่าจะเกิดราวต้นปี พ.ศ. ๒๕๐๑ มากกว่า เนื่องจากข้อมูลจากข้อมูลจากคำ บอกเล่าของญาติพี่น้องยืนยันตรงกันว่า หลวงพ่อผ่านการตรวจเลือกทหารกองเกินแล้วจึงทำการ อุปสมบท และการอุปสมบทในเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ นั้นมีข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ ยืนยัน ตรงกัน ดังนั้น เรื่องวันเดือนปีเกิดจริง ๆ ของหลวงพ่อนั้นไม่มีความชัดเจนแต่อย่างใด แต่หลวงพ่อเล่าว่า โยมบิดาเคยเล่าให้ฟังว่าท่านเกิดเมื่อวันพุธ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๙ ปีกุน ตรงกับวันที่ ๑๒ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๐๒ ซึ่งตรงกับวันธัมมัสสวนะพอดี ณ แต่เนื่องจาก ต่อมาได้เกิดความผิดพลาดในเรื่องการกรอกข้อมูลในเอกสารของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทำ ให้มีการระบุวันเกิดของหลวงพ่อคาดเคลื่อนเป็นวันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๒ และถูกใช้เป็นวัน เกิดของหลวงพ่อที่ระบุในเอกสารราชการทุกอย่างเรื่อยมา เนื่องจากไม่มีหลักฐานหรือผู้รับรอง ข้อมูลที่จะยืนยันเพื่อจะเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าวได้ แม้เอกสารราชการจะระบุว่าหลวงพ่อเกิดวันที่ ๖ กรกฎาคม แต่หลวงพ่อจะทำบุญวันเกิด เป็นการส่วนตัวในวันที่ ๑๒ สิงหาคมเป็นประจำทุกปีตามวันคล้ายวันเกิดที่โยมบิดาเล่าให้ฟัง ซึ่ง ในช่วงดังกล่าวทางวัดพระบรมธาตุจะมีกิจกรรมบวชศีลจาริณี(บวชชีพราหมณ์) เพื่อถวายเป็นพระ ราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตามดำริของ หลวงพ่อ ทำให้ในช่วงเช้าวันที่ ๑๒ สิงหาคมประจำทุกปีหลวงพ่อจะทำบุญวันเกิดด้วยการตักบาตร พระภิกษุสามเณรภายในวัด และบางปีก็จะงดรับนิมนต์เป็นพระสงฆ์สมณศักดิ์ในพิธีทำบุญตักบาตรและเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล ฯ ที่ทางจังหวัดกำแพงเพชรจัดขึ้น โยมบิดาของหลวงพ่อ ชื่อ นายทวี ภูมิเมือง ส่วนโยมมารดา ชื่อ นางบาง ภูมิเมือง (สกุล เดิม เพชรวงษ์) ซึ่งทั้งคู่เป็นชาวบ้านคุยป่ารังโดยกำเนิด และได้เลือกตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ติดกับ ที่พักสงฆ์คุยป่ารัง ซึ่งทางตระกูลภูมิเมืองได้อุทิศให้เป็นที่ตั้งที่พักสงฆ์ ขณะนั้นมีหลวงปู่เห สนฺติกโร เป็นหัวหน้าที่พักสงฆ์ ซึ่งหลวงปู่เหมีศักดิ์เป็นน้องชายของนายทวน ภูมิเมือง ผู้เป็นบิดาของนายทวี หรือมีศักดิ์ปู่ของหลวงพ่อ ตระกูลภูมิเมืองและตระกูลเพชรวงษ์ถือเป็นตระกูลใหญ่ของหมู่บ้าน และมีสายสัมพันธ์ทางเครือญาติกับตระกูลต่าง ๆ ในหมู่บ้าน หลวงพ่อเล่าว่า โยมบิดาของท่านซึ่ง เป็นคนที่มีความสุขุมลุ่มลึก เป็นที่นับถือและไว้วางใจของชาวบ้านเป็นอย่างมาก ทำให้ได้รับการเลือกตั้งจากชาวบ้านให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน เนื่องจากเป็นผู้นำที่มีความยุติธรรม เป็นที่พึ่ง ของชาวบ้านในการติดต่อประสานงานต่าง ๆ กับทางราชการ แม้ในขณะที่ทางอำเภอออกมาขอ ประชามติจากชาวบ้านคุยป่ารัง โยมบิดาของหลวงพ่อจะทำงานอยู่ที่ทุ่งนา ไม่ได้มาร่วมประชุมด้วย ก็ตาม
โยมบิดาของหลวงพ่อได้ตั้งชื่อหลวงพ่อเป็นทางการว่า “วีระ” ซึ่งแปลว่า ผู้กล้าหาญ และ ตั้งชื่อเล่นว่า “เอก” เนื่องจากตาของหลวงพ่อข้างขวามีตาดำที่อยู่ไม่ตรงที่ ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “ตาเอก” ภายหลังเมื่ออุปสมบทและเรียนพระปริยัติธรรมหลวงพ่อจึงต้องสวมแว่นตาเพื่อถนอม สายตาตลอดมา หลวงพ่อมีพี่น้องร่วมอุทรเดียวกันจำนวน ๑๐ คน โดยหลวงพ่อเป็นบุตรคนที่ ๖ และมีพี่น้อง ได้แก่
๑) นายสังวร ภูมิเมือง (เกิดปีขาล พ.ศ. ๒๔๙๑)
 ๒) นายแสวง ภูมิเมือง (เกิดปีเถาะ พ.ศ. ๒๔๙๔)
๓) นางเพ็ญ เพชรวงษ์ (เกิดปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๔๙๖)
๔) นางบ่าย เนื่องจุ้ย (เกิดปีวอก พ.ศ. ๒๔๙๙)
๕) นายสวง ภูมิเมือง (เกิดปีระกา พ.ศ. ๒๕๐๐)
๖) พระเทพวชิรเมธี (วีระ ภูมิเมือง) (เกิดปีกุน พ.ศ. ๒๕๐๒)
๗) นายพวัย ภูมิเมือง (เกิดปีเถาะ พ.ศ. ๒๕๐๖)
๘) นางพัยวัน สงเชื้อ (เกิดปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๕๐๘)
๙) นางพยับ ภูมิเมือง (เกิดปีวอก พ.ศ. ๒๕๑๑)
 ๑๐) นางสาวพยอม ภูมิเมือง (เกิดปีกุน พ.ศ. ๒๕๑๔)
บ้านคุยป่ารังซึ่งเป็นมาตุภูมิของหลวงพ่อเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้กับภูยอดเหล็กซึ่งมี แหล่งถลุงแร่เหล็กขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของเมืองกำแพงเพชร ลักษณะทางกายภาพส่วนใหญ่เป็นที่ เนินดินร่วนปนทราย ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม พืชเพาะปลูกสำคัญตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันคือ ข้าวและมันสำปะหลัง การเดินทางเข้าไปยังหมู่บ้านนี้ต้องอาศัยความตั้งใจที่จะ เดินทางไปจึงจะพบ เนื่องจากไม่ได้เป็นหมู่บ้านทางผ่านที่ติดถนนสายหลัก และอยู่ห่างไกลจากตัว อำเภอพรานกระต่าย เมื่อหลวงพ่ออยู่ในวัยเด็กความเจริญหรือสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ ก็ยังเข้าไป ไม่ถึง ถนนหนทางก็ขรุขระลำบากโดยเฉพาะช่วงหน้าฝน ไฟฟ้าก็ยังไม่มีใช้ น้ำในการอุปโภคบริโภค ก็ต้องอาศัยน้ำจากบ่อน้ำและลำคลองเรือหอ ซึ่งอยู่ใกล้กับหมู่บ้าน ส่วนอาหารการกินก็อาศัยการ ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ และการหาของป่าตามฤดูกาลเป็นหลักในการประกอบอาหาร นาน ๆ จะได้กิน ของอร่อย ก็ต้องรอให้โยมบิดาเข้ามาทำธุระภายในตัวอำเภอ หลังจากโยมมารดาของหลวงพ่อได้คลอดนางสาวพะยอม ภูมิเมือง ซึ่งเป็นบุตรสาวคน สุดท้องได้๔ ปีโยมมารดาของหลวงพ่อก็ได้ถึงแก่กรรม ชีวิตในช่วงวัยรุ่นของหลวงพ่อจึงเติบโตมา ด้วยการเลี้ยงดูของโยมบิดาและพี่ ๆ ทั้ง ๕ คน ในขณะเดียวกันก็ได้ช่วยโยมบิดาดูแลน้องสาวด้วย บรรดาพี่น้องของหลวงพ่อต่างเล่าเป็นเสียงเดียวกันว่า ในวัยเด็กหลวงพ่อเป็นคนที่เลี้ยงง่าย อยู่ง่าย กินง่าย มีบุคลิกนิสัยเป็นเด็กที่ร่าเริง ชอบไปเที่ยวเล่นที่ท้องไร่ท้องนาตามโยมบิดา

ผู้เขียน : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ธีระวัฒน์ แสนคำ
#ติดตามอ่านต่อตอนที่  ๒
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 06, 2025, 11:37:54 am โดย apairach » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!