บทสุนทรพจน์ ของหลานแคท นางสาวชญาภัทร ศรีไพร แก้ไขแล้ว ไปประกวดระดับภาค

[apairach]

สุนทรพจน์ ?ไทยโปร่งใส ไทยเข้มแข็ง?
     
      ทำไมจึงมีคำกล่าวว่า ไทยโปร่งใส ไทยเข้มแข็ง   ประเทศไทยของเรามิโปร่งใสหรือ ประเทศไทยจึงยังไม่เข้มแข็งหรือ ปัญหานี้ เป็นที่ตระหนักรู้ของประชาชนชาวไทยที่ตั้งใจทำงานเสียสละเพื่อบ้านเมืองทุกคน  ใครจะแก้ปัญหานี้ได้ ใครจะสามารถทำคำว่าไทยโปร่งใส ไทยเข้มแข็ง เป็นจริงขึ้นมาได้  เราทุกคนมิใช่หรือ
     การฉ้อราษฎร์บังหลวง ต้องยอมรับกันอย่างตรงไปตรงมา มีทั้งส่วนของการเมือง ส่วนของราชการ รวมทั้งส่วนของนักธุรกิจ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น การชำระสะสาง ปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวง จึงเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่ง ของแผนการปฏิรูปประเทศไทย
เมื่อทุกฝ่ายยอมรับแล้วว่า การฉ้อราษฎร์บังหลวง มีจริง ดิฉันก็มีข้อมูลที่เป็นความจริงจากการศึกษาและค้นคว้า จากการถามไถ่จากท่านผู้รู้จริง ซึ่งเป็นอดีตนักการเมือง อดีตข้าราชการ อดีตนักการเมืองที่มาจากภาคธุรกิจ เป็นข้อมูลที่อยู่ใกล้ตัวของทุกๆท่าน เชื่อว่าหลายท่าน เคยรู้ เคยเห็น เคยสัมผัสกันมาบ้างแล้ว
    ดิฉันขอเริ่มต้นที่นักการเมือง ซึ่งเคยยึดมั่นในอุดมการณ์ แปรเปลี่ยนมาเป็นนักการเมืองที่ยึดติดกับกระแส ?บริโภคนิยม? ทั้งนี้ ดิฉันหมายถึง นักการเมืองบางคนหรือบางกลุ่มเท่านั้น มิได้เหมาหมด รวมทั้ง ส่วนราชการ ส่วนของนักธุรกิจที่ดิฉันจะกล่าวถึง ในช่วงต่อไปนี้ด้วย
ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพค่ะ นักการเมืองที่ว่านี้ต่างมองไปที่งบประมาณก้อนโตของแผ่นดินในแต่ละปี เป็นเสมือนอาหารจานใหญ่อันโอชะ จึงใช้อำนาจทางการเมืองแปรรูปเป็นเงินตรา จากโครงการรับเหมาก่อสร้าง โครงการจัดซื้อจัดจ้าง และการโยกย้ายข้าราชการประจำปี การปรับตำแหน่งต่างๆ ในเดือนกันยายนของทุกปี ที่กล่าวมานี้ อำนาจการเมืองสามารถเข้าถึง   และเป็นสาเหตุสำคัญที่สุดของการไม่โปร่งใส และทำให้ประเทศไทยไทยอ่อนแอลง
ส่วนราชการซึ่งขาดความเป็นเอกภาพ บ้างก็กลัวอำนาจการเมือง บ้างก็เอาแต่ท่องคำว่า ?รู้รักษาตัวรอด เป็นยอดดี? นักการเมืองจึงสามารถเข้ามาครอบงำ ระบบราชการได้เป็นส่วนใหญ่และที่น่าสังเกต ข้าราชการที่ได้ใกล้ชิดกับนักการเมืองเป็นพิเศษ ชีวิตการรับราชการจะเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว  เศรษฐกิจของครอบครัว ก็ดีวันดีคืน อย่างนี้ใช่ไหม ที่ทำให้ระบบราชการไม่โปร่งใส คำว่าไทยโปร่งใส ไทยเข้มแข็ง เป็นได้แค่ตัวอักษรสีดำบนกระดาษขาว เท่านั้นเองหาได้มีการทำการแก้ไขอย่างจริงจังไม่
ในแวดวงธุรกิจ ต่างติดใจระบบธุรกิจการเมือง เพราะเป็นการลงทุนที่มีผลกำไรเกินคาดไม่มีหนี้สูญหนี้เสีย เพราะค้าขายกับรัฐบาล มีกฎหมายรองรับ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่กลุ่มทุนใหญ่ระดับประเทศ เดินเข้าสู่แวดวงการเมือง ทั้งทางตรง ทางอ้อม ใช้สุดยอดวิชาทางธุรกิจ คือใช้เงินนำหน้าซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจทางการเมือง เมื่อได้นำอำนาจรัฐเบ็ดเสร็จ ก็กำหนดนโยบายและโครงการต่างๆขึ้นมา แปรรูปอำนาจรัฐเป็นกำไร ตัวอย่างเช่น โครงการรับเหมาก่อสร้าง โครงการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะทั้งสองโครงการนี้ แต่ละปีมีงบประมาณนับแสนล้าน และบรรดากลุ่มทุนธุรกิจต่างมีโรงงานผลิตวัสดุและบริษัทจัดจำหน่ายเป็นเครือข่ายรองรับงบประมาณแสนล้านที่ว่านี้อยู่แล้ว นี่แหละคือการทุจริตเชิงนโยบาย ที่กฎหมายเอื้อมไปไม่ถึง
         ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพค่ะ ความไม่โปร่งใสในการบริหารประเทศ  ไร้ซึ่งความซื่อสัตย์สุจริต ทำให้ระบบเศรษฐกิจเสียหาย ระบบการปกครองอ่อนแอลงทุกวัน ระบบสังคมล่มสลายระบบการเมืองเป็นตัวสร้างปัญหา
ปัญหานี้มนุษย์เป็นผู้สร้าง สร้างได้ก็แก้ได้ ดิฉันขอเสนอวิธีแก้ปัญหาให้เป็นสามระยะ ดังนี้
1.   ระยะสั้น ต้องเน้นให้ผู้มีหน้าที่ดูแลกฎหมายบังคับใช้กฎหมาย อย่างตรงไปตรงมา ไม่ล่าช้า ไม่สองมาตรฐาน
2.   ระยะกลาง ใช้มาตรการทางสังคม โดยการมีส่วนร่วมจากชุมชน ไม่ให้การยอมรับ ผู้ที่มีพฤติกรรมการฉ้อราษฎร์บังหลวง แม้จะมีฐานะดีอย่างไรก็ตาม
3.   ระยะยาว ต้องให้การศึกษากับเยาวชน ปลูกฝังจิตสำนึกวัฒนธรรม ความเป็นไทย ภายใต้หลักศาสนา
ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพค่ะ ถ้าทำอย่างดิฉันเสนอแนะ ดิฉันเชื่อแน่ว่า ประเทศไทยของเราจะปราศจากซึ่งการฉ้อราษฎร์บังหลวง  คำว่า ?ไทยโปร่งใส ไทยเข้มแข็ง? ต้อง เป็นความจริงได้แน่นอนค่ะ