ยันต์ลงคาถาอาคม ของขุนเสวกวังแขม (นายกิ่ง เกษเผือก) หมอยาแผนโบราณและจอมเวทย์วัง

[apairach]

ยันต์ลงคาถาอาคม
ของขุนเสวกวังแขม (นายกิ่ง  เกษเผือก)
หมอยาแผนโบราณและจอมเวทย์วังแขม สมัยรัชกาลที่ ๕























คาถาอาคม ผ้ายันต์ และตำรายา ของขุนเสวกวังแขม  เป็นสิ่งมีค่าสูงยิ่ง ทายาทได้มอบตำราสูงค่านี้ แก่ศูนย์วัฒนธรรมไทยสายใยชุมชน ตำบลวังแขม มีกว่า ๑,๐๐๐ หน้า ขณะนี้ อาจารย์สันติ อภัยราช ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ได้ถ่ายภาพทั้งหมด ด้วยกล้องดิจิตอล  กำลังดำเนินการวิจัยและถ่ายถอดเป็นภาษาปัจจุบัน เพื่อจารึกสิ่งล้ำค่าไว้ในแผ่นดินกำแพงเพชร

                                 
                           วัดจันทาราม และหลวงพ่อศรีมงคลที่ศักดิ์สิทธิ์


 
วิหารหลวงพ่อศรีมงคลหลังเก่า
วัดจันทาราม ตั้งอยู่เลขที่ 001 บ้านวังแขม หมู่ที่ 1 ตำบลวังแขม อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร  สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 17 ไร่ 89 ตารางวา ที่ตั้งวัดอยู่ริมน้ำปิงทางด้านทิศตะวันออก ได้สร้างขึ้นมาเป็นเวลานาน ได้ลงทะเบียนเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2425   เคยเป็นวัดร้าง และได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ ชาวบ้านมักเรียกนามวัดนี้ว่า ?วัดวังแขม? ตามชื่อของหมู่บ้าน วัดนี้ได้รับการพัฒนาเป็นหลักฐานมั่นคงนับมาตั้งแต่ พ.ศ. 2420
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ได้เคยเสด็จประพาสต้น  ทางชลมารค ทรงแวะพักที่ปะรำพิธีที่หาดทรายหน้าวัดนี้
 วัดจันทารามได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา ครั้งหลัง วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2523




เจ้าอาวาสทราบนาม
1.หลวงพ่อสุข
2.พระอุปัชฌาย์ อุ่ม
3.พระสมุห์ ทิม
4.พระสมุห์ ละออง
5.พระสมุห์ สุข
6.พระอาจารย์ สงวน
7.พระปลัด พยนต์ โชติทินโน
8.พระครูโสภณพัชรญาณ (ทวีป ญาณวโร ป.ธ.5) หรือพระสิทธิธรรมเวที รจจ.กำแพงเพชร ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ พ.ศ.2507-2549(มรณภาพ 4 กันยายน 2549)
9.พระปลัดทิม เขมะจาโร
ที่วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปที่สำคัญคือ
หลวงพ่อศรีมงคล พระประธานในอุโบสถหลังเก่า ?ปางมารวิชัย? เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนเป็นอย่างมากผู้ใดมีทุกข์ร้อน มักมาขอพึ่งบารมีของหลวงพ่อด้วยพวงมาลัย ก็จะได้สำเร็จตามปรารถนาทุกประการ ฯลฯ
 
หลวงพ่อศรีมงคลก่อนปิดทอง
 
หลวงพ่อศรีมงคลหลังปิดทอง

ประวัติหลวงพ่อศรีมงคล  และประวัติ รอยพระพุทธบาทจำลอง
วัดจันทาราม  ตำบลวังแขม  อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร
ตามที่ นายร่อน  มีชัย  อายุ 81  ปี ได้ เล่า  ว่า วิหารที่หลวงพ่อศรีมงคล ประดิษฐานอยู่ในปัจจุบันนี้ว่าจะเป็นชาวพม่า เป็นผู้สร้างขึ้นนั้น เพราะว่าวิหารหลวงพ่อศรีมงคลได้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก  และเป็นทิศที่ประเทศของพม่าไม่ทราบว่าในปีใดและพ.ศ.ใด   ได้แต่ทราบว่าเป็นวิหารที่เก่าแก่มาก ตามที่คนเก่าแก่เล่ามา  เป็นเวลานับหลายร้อยปี(จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ผู้มาบูรณปฏิสังขรณ์ทราบว่า สร้างสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ราวรัชกาลที่2-3: บรรณาธิการ)
ส่วนรอยพระพุทธบาทจำลองที่เป็นเนื้อโลหะ ที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารหลวงพ่อศรีมงคลก็เช่นเดียวกัน ไม่มีใครทราบที่แน่ชัดว่าได้มาอย่างไร และตั้งแต่เมื่อปีใด และ พ.ศ.ใด เช่นกัน ก็ได้สอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ เช่น ลุงร่อน    มีชัยและลุงเหรียญ   นาคนาม  ที่เป็นบุคคลที่อยู่ใกล้เคียงกับวัด มาโดยตลอดได้ สอบถามแล้วได้รับคำตอบว่าตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียน อยู่โรงเรียนวัดก็ได้เห็นรอยพระพุทธบาทมีอยู่ในวิหารหลวงพ่อศรีมงคลแล้ว  ต่อจากนั้นลุงเหรียญยังบอก               รอยพระพุทธบาทจำลอง             อีกว่ามีตัวอักษรอยู่ที่ใบสีมาวิหารหลวงพ่อศรีมงคล  และเป็นตัวเลข ว่า   ร.ศ.120 (เป็นรัตนโกสินทร์ศักราช ถ้าเราต้องการแปลงเป็นพุทธศักราช ให้ใช้2324บวก ร.ศ. จะได้เป็นปีพุทธศักราช : บรรณาธิการ) ตามที่สอบถามคนเก่าๆ ก่อนนั้น เมื่อทางวัดมีงานเทศกาล ใดๆ เช่นงานประจำปีปิดทองไหว้พระ ก็จะยกรอยพระพุทธบาทจำลองออกมาให้ชาวบ้านได้ปิดทองรอยพระพุทธบาทกันเป็นประจำ  ต่อมาทางคณะกรรมการวัด ก็จะนำออกมาให้ชาวบ้านได้ปิดทองกันในวันงานเป็นประจำทุกปีจนถึงปัจจุบันนี้  แต่ในตอนนี้ฝาที่สำหรับปิด-เปิดไว้ใส่ปัจจัย  ได้ถูกพวกมิจฉาชีพลักไปเสียแล้ว   ทางวัดก็ไม่ทราบว่าถูกลักไปตั้งแต่เมื่อไรเช่นกัน    สำหรับในตอนนี้พระที่วัดได้ช่วยกันเอาไปเก็บไว้ที่อุโบสถหลังใหม่(ราว พ.ศ.2538 ได้ไปสำรวจวัดจันทาราม พบพระวิหารหลวงพ่อศรีมงคล และรอยพระพุทธบาทอยู่สภาพทิ้งร้าง เพราะพระวิหารชำรุด : บรรณาธิการ)
 
รอยพระพุทธบาทจำลอง
นายฟุ้ง     ปานสุด กำนันตำบลวังแขมผู้ให้ข้อมูล

                                               
                    สันติ อภัยราช ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร